อสังหาฯ ยุค 4.0 เดินหน้าด้วยนวัตกรรม

ปัจจุบันนี้ที่เป็นยุค 4G ก็จะหนีไม่พ้นของคำว่า “นวัตกรรม” เพราะคำ ๆ นี้ในสังคมอสังหาริมทรัพย์ ก็มักจะถูกกล่าวขานกันอยู่บ่อย ๆ ใน 3 ด้านด้วยกัน ก็คือ นวัตกรรมการก่อสร้าง นวัตกรรมในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ และนวัตกรรมการอยู่อาศัย ทั้ง 3 ประเด็นนี้ก็จะมีบทบาท ทั้งในด้านของการพัฒนาโครงการ และทำให้การอยู่อาศัยของผู้ซื้อมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

วันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่า แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นไปในทิศทางใดบ้าง สำหรับยุค 4G 3 นวัตกรรมด้านอสังหาริมทรัพย์ จะสามารถตอบโจทย์ทั้งในส่วนของธุรกิจและการใช้ชีวิตประจำวัน ดังที่ได้เกริ่นไปแล้วว่านวัตกรรมในอสังหาริมทรัพย์นั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 นวัตกรรม ดังต่อไปนี้ค่ะ

  1. นวัตกรรมด้านการก่อสร้างจะเป็นการเน้นการก่อสร้างอย่างรวดเร็ว สามารถที่จะควบคุมต้นทุนได้ดี เพื่อให้ที่อยู่อาศัยนั้น ๆ แล้วเสร็จพร้อมส่งมอบถึงมือผู้ซื้อได้ทันเวลาและอย่างรวดเร็ว ผู้ประกอบการก็จะรับรู้รายได้จากการขายได้เร็วขึ้น นวัตกรรมการก่อสร้างจึงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่มีสิ้นสุดเพื่อตอบโจทย์ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในเชิงการบริหารต้นทุนและเวลาในการก่อสร้าง ซึ่งจะมีผลต่อเนื่องไปยังผู้บริโภคคนซื้อบ้านอีกด้วย
  2. นวัตกรรมทางด้านการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์จะเห็นว่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่เป็นผู้พัฒนาโครงการและตัวแทนขาย หรือบริษัทนายหน้า ต่างก็นำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาเสริมทักษะเพิ่มเติมในการขาย เพิ่มกลยุทธ์ต่าง ๆ มากขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกค้าสะดวกสบายในการจับจองที่อยู่อาศัยมากขึ้น อีกทั้งยังวิเคราะห์ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า ความต้องการได้ดียิ่งขึ้นด้วย ซึ่งนวัตกรรมนี้จะส่งบวกกับฝั่งผู้ประกอบการมากกว่าฝั่งผู้บริโภค
  3. นวัตกรรมด้านการอยู่อาศัยเป็นสิ่งที่คิดและพัฒนาเพื่ออำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัยให้กับผู้บริโภค เรียกได้ว่า เป็นสิ่งที่คิดเพื่อให้ผู้บริโภคเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยตรงอย่างแท้จริงค่ะ และมีการพัฒนานวัตกรรมการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง โดยนวัตกรรมการอยู่อาศัยที่เห็นภาพชัดเจนที่สุด นั่นก็คือ การนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ภายในบ้าน หรือที่นิยมเรียกกันว่า สมาร์ทโฮม (Smart Home) ที่ใช้สมาร์ทโฟนหรือโทรศัพท์มือถือสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้ คุณ ๆ ทั้งหลายสามารถที่จะสั่งให้เปิดเครื่องปรับอากาศไว้ก่อนที่จะมาถึงบ้าน สั่งเปิดปิดไฟ สั่งการระบบสปริงเกอร์น้ำให้รดน้ำต้นไม้ในเวลาที่ไม่อยู่บ้าน ระบบแจ้งเตือนการใช้งานไฟฟ้า และระบบแจ้งเตือนเรื่องความปลอดภัย เป็นต้น สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเทคโนโลยีที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงและโลกที่กำลังพัฒนาไปสู่ยุค 4G ต่อไป

    ระบบอัจฉริยะ Smart Home
    ระบบอัจฉริยะ Smart Home

จากสมาร์ทโฮม สู่นวัตกรรม AI

นอกจากสมาร์ทโฮมแล้วปัจจุบันยังเริ่มเห็นหลายโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านแนวราบและคอนโดมิเนียม นำนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) มาใช้ในการดูแลบริหารการอยู่อาศัยให้กับลูกบ้าน เช่น โรบอตช่วยดูแลลูกบ้าน ระบบแชทบอต (Chatbot) ตอบคำถามลูกบ้าน หรือแม้แต่การพัฒนาแอปพลิเคชันบนมือถือ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกบ้านใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น เช่น แจ้งซ่อม จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ตู้ฝากของอัตโนมัติ รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่มีความทันสมัยมากขึ้น

 นวัตกรรมตอบรับสังคมผู้สูงอายุ

นวัตกรรมการอยู่อาศัยที่นำด้วยเทคโนโลยี ไม่เพียงตอบโจทย์คนรุ่นใหม่เท่านั้น แต่ยังอำนวยความสะดวกสำหรับผู้สูงอายุได้ดีอีกด้วย เนื่องจากสังคมปัจจุบัน กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างเลี่ยงไม่ได้  ได้มีจำนวนประชากรที่เป็นผู้สูงอายุมากขึ้น ซึ่งผู้สูงอายุเหล่านี้ มีทั้งกลุ่มที่ยังแอคทีฟ ยังทำงานได้ ไปไหนมาไหนได้ด้วยตัวเอง และกลุ่มผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด เทคโนโลยีก็จะเข้ามามีบทบาทช่วยให้ผู้สูงอายุเหล่านี้ใช้ชีวิตได้สะดวกมากขึ้น เช่น ปุ่มแจ้งเตือนภัย ปุ่มโทรด่วนขอความช่วยเหลือ หรือแม้แต่ AI เองก็จะเป็นผู้ช่วยของผู้สูงอายุได้ในอนาคต

ดังนั้น สำหรับบ้านบางหลังยังไม่ได้เจาะจงใช้เทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่วิธีคิดที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยสะดวกสบายมากขึ้น อย่างแบบบ้านที่มีฟังก์ชั่นใหม่ ๆ โดยไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ก็เป็นนวัตกรรมการอยู่อาศัยได้เช่นกัน อาทิ วัสดุอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุภายในบ้าน อาทิ ราวจับบริเวณบ้าน หรือพื้นที่ส่วนกลาง การปรับพื้นให้เป็นทางลาดเพื่อรองรับการใช้รถเข็นของผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ

แนวโน้ม Developer หันมาใช้นวัตกรรมแบบขับเคลื่อน
แนวโน้ม Developer หันมาใช้นวัตกรรมแบบขับเคลื่อน

เป็นที่รู้กันอย่างแน่นอนว่าการพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยย่อมมีความสำคัญกับตลาดที่อยู่อาศัย ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต เพราะเทคโนโลยีและการสื่อสารที่รวดเร็วในแบบโลกโซเชียล ทำให้คนตอบสนองความต้องการได้เร็ว โครงการที่มีนวัตกรรมต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตมาก ก็จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคมากขึ้น ปัจจัยดังกล่าวจึงมีแนวโน้มว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ ๆ จะนำนวัตกรรมการอยู่อาศัยใส่เข้ามามากขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ฝั่งผู้พัฒนาเทคโนโลยีก็ดี ผู้พัฒนาวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง ผู้พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ก็ต้องคิดค้นการนำนวัตกรรรมการอยู่อาศัยที่อำนวยความสะดวกให้กับผู้อยู่อาศัยให้มากขึ้นไปอีก โดยเฉพาะ AI จะถูกนำมาใช้ในการอยู่อาศัยมากขึ้น ทั้งตอบโจทย์ผู้บริโภค และสร้างความเป็นผู้นำการอยู่อาศัยให้กับแบรนด์ของตนเอง

ทั้งนี้ ในด้านการลงทุนแล้ว ต้นทุนของนวัตกรรมเหล่านี้ ช่วงแรกอาจจะสูง แต่เมื่อมีการใช้มากขึ้น ต้นทุนก็ถูกลง แต่ในเชิงมูลค่าที่สะท้อนกลับไปยังแบรนด์อสังหาริมทรัพย์เหล่านั้นแล้ว แบรนด์ที่ภาพลักษณ์ของการพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์คนอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่อง จะกลายเป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าสูง และได้รับความนิยมต่อเนื่องในอนาคต

อย่างไรก็ตาม คุณผู้อ่านทั้งหลายทราบแล้วนะคะว่า นวัตกรรม นั้นมีบทบาทสำหรับการใช้ชีวิตกับเรามากแค่ไหน จนกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของเราได้ การพัฒนาสิ่งเหล่านี้ก็จะเป็นผลดีกับผู้บริโภคที่จะได้สินค้าที่มีคุณภาพ ถึงแม้ว่าแรก ๆ นั้น ราคาอาจจะค่อนข้างสูงแต่มันก็จะเป็นการซื้อความสะดวกสบาย และเป็นการซื้อเทคโนโลยีนะคะ เจ้าของโครงการ คอนโด หรือ บ้าน สมัยนี้นิยมที่จะใช้ระบบ Smart Home เพิ่มมากขึ้น เพื่อเพิ่มจุดขายและเป็นจุดเด่นของโครงการ อย่างเช่น คอนโด The Line Sukhumvit 101 เป็นคอนโดที่ใช้ระบบ Smart Home เป็นต้น