เราจะเห็นได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบห้องคอนโด ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และผู้ประกอบการเองก็ได้ออกแบบรูปแบบห้องให้มีความหลากหลายมากขึ้น อาทิ ห้องสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน, ลอฟต์, ดูเพล็กซ์ ไปจนถึงเพนท์เฮ้าส์ แต่เพื่อน ๆ ทราบกันหรือไม่คะว่า รูปแบบห้อง Loft และ Duplex นี้ ถ้ามองเผิน ๆ แล้วเหมือนเป็นห้องลักษณะเดียวกันที่รูปแบบห้องมีสองชั้นทั้งคู่ แต่จริง ๆ แล้วนั้น ทั้งสองประเภทดังกล่าว มีข้อแตกต่างกันทั้งรูปแบบและด้านกฎหมายเลยค่ะ วันนี้ทาง Fazwaz.co.th มีความรู้ดี ๆ มาฝากกันว่าแต่ละห้องแตกต่างกันอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ

ความแตกต่างระหว่างห้องสไตล์ Loft และ Duplex

Loft Style โครงการ Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4
  • คอนโดสไตล์ Loft
    1. ห้องที่มีการออกแบบให้มีชั้นลอยแต่ไม่ได้สูงมากนัก และในทางกฎหมายก็ระบุไว้ว่าส่วนนี้เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ ดังนั้น จึงไม่ได้คิดเป็นส่วนก่อสร้างและไม่ได้รวมอยู่ในโฉนด
    2. คอนโดที่มีการก่อสร้างเป็นห้องพักอาศัยและห้องนั่งเล่นมีเพดานสูงแบบ Double Space
    3. ประตูเข้า-ออกของห้อง จะมีแค่ทางเดียวคือ บริเวณพื้นที่ใช้สอยชั้นล่าง
Loft Style โครงการ Esse Asoke

ข้อดี : สำหรับข้อที่คุ้มค่าที่สุดในการซื้อห้องสไตล์ Loft คือ การเสียค่าส่วนกลาง เนื่องจากการเสียค่าส่วนกลางจะจ่ายเฉพาะพื้นที่ที่ออกโฉนด เช่น ห้องขนาด 35 ตร.ม. + ชั้น 2 ขนาด 22 ตร.ม. จะคิดแค่ ขนาด 35 ตร.ม. เท่านั้น เพราะนับชั้นลอยเป็นแค่เพียงเฟอร์นิเจอร์ และการที่มี Double Space จะช่วยให้ห้องดูโปร่ง และโล่งมากขึ้นกว่าเดิม

ข้อเสีย : มีความปลอดภัยค่อนข้างน้อย เพราะมีประตูเข้า-ออกแค่ทางเดียว หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะทำให้หนีค่อนข้างลำบาก และมีปัญหาความสูงของชั้นลอย เนื่องจากไม่มีการกำหนดทางกฎหมายอย่างชัดเจนถึงความสูงของเพดาน จึงทำให้บางโครงการมีเพดานเตี้ยกว่า 2.40 เมตร จะทำให้ห้องดูอึดอัด


  • คอนโดสไตล์ Duplex
    1. ห้องชุดที่ได้รับการออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยชั้น 2 และตามกฎหมายกระทรวงฉบับที่ 55 ระบุไว้ว่าความสูงของเพดานต้องไม่น้อยกว่า 2.60 เมตร (วัดจากพื้นถึงพื้นอีกชั้นหนึ่ง) ส่วนชั้น 2 จากพื้นถึงเพดานต้องไม่ต่ำกว่า 2.40 เมตร ห้องโดยรวมจะมีความสูงอย่างน้อย 5 เมตร โดยคิดส่วนนี้เป็นส่วนของการก่อสร้าง ดังนั้นจึงถูกระบุไว้ในโฉนด
    2. จะต้องมีประตูเข้า-ออก ทั้งห้องชั้นบนและชั้นล่าง และประตูชั้นบนเป็นประตูที่ต้องมีตามข้อบังคับของกฎหมาย เพื่อให้ไปโถงทางเดินหนีไฟได้ง่ายขึ้น
    3. รูปแบบของห้องจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ ห้องที่มีพื้นที่เปิดโล่ง โดยมักออกแบบพื้นที่บริเวณนี้ให้มีเพดานลักษณะ Double Space และห้องที่ไม่มีพื้นที่เปิดโล่ง แต่ต้องมีเพดานสูงไม่น้อยกว่า 2.60 เมตร ตามที่กฎหมายกำหนด

ข้อดี : เพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉิน เช่น กรณีไฟไหม้ ก็สามารถหนีออกทางประตูที่สร้างไว้ได้เลย โดยไม่ต้องวิ่งลงมาออกทางข้างล่างให้เสียเวลา รวมถึง ความสูงของเพดาน ที่มีความสูงมาก จะช่วยทำให้ห้องดูกว้างและโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากเลือกแบบห้องที่มีการปิดกั้น ก็จะได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้นไปอีก

ข้อเสีย : ค่าไฟ ยิ่งห้องที่สูงและกว้างมากขึ้นเท่าไหร่ ภาระค่าไฟยิ่งมากขึ้นเท่านั้น เมื่อห้องที่สูงมาก จำเป็นต้องใช้แอร์ที่ตัวใหญ่ขึ้น ทำให้แอร์ทำงานหนักมากขึ้นตามขนาดของห้องนั่นเอง เช่นเดียวกับการเสียค่าส่วนกลางที่มากขึ้นตามขนาดของห้องอีกด้วย

Duplex Style
Duplex Style โครงการ The Lofts Asoke


ซื้อคอนโดทั้งที เลือกห้องแบบ Loft หรือ Duplex ดีนะ ?
หากคุณกำลังตัดสินใจเลือกซื้อห้องคอนโด นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้ว รูปแบบห้องที่ตอบโจทย์การอยู่อาศัยก็สำคัญเช่นกัน หากไม่อยากซื้อห้องธรรมดา ๆ และอยากเพิ่มฟังก์ชันต่าง ๆ เพิ่มเติม ระหว่าง Loft และ Duplex จะเลือกอะไรดี ?

  • คอนโดสไตล์ Loft
    ห้องรูปแบบนี้เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ต้องการห้องที่โล่ง โปร่งสบาย เพราะมีเพดานสูง ให้ความรู้สึกทันสมัย มีพื้นที่ใช้สอยในส่วนของชั้นลอยที่เพิ่มขึ้น และยังมีราคาที่ไม่สูงจนเกินไป เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคุ้มค่าแก่การลงทุนค่ะ
  • คอนโดสไตล์ Duplex
    คอนโดห้องแบบดูเพล็กซ์ เหมาะกับผู้อาศัยที่ต้องการให้ห้องมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีความลักซ์ชัวรี่ และบรรยากาศการอาศัยอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน ให้ความสะดวกสบายและมีพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้งานอย่างเต็มที่ แต่ต้องเสียค่าส่วนกลางเพิ่มมากขึ้น

มาถึงตอนนี้ เพื่อน ๆ คงมีคำตอบที่ชอบอยู่ในใจกันแล้วใช่ไหมคะ ? ว่าอะไรที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ซึ่งการเลือกซื้อคอนโดสักห้องก็วางอยู่บนปัจจัยหลาย ๆ อย่าง อาทิ ทำเลที่ตั้ง ความสะดวกของการคมนาคม หรืองบประมาณ เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้อาศัยอย่างสูงสุดนั่นเองค่ะ