บางโพ..ทำไมกลายเป็นทำเลยอดฮิต HUB แห่งใหม่ของคนกรุงเทพ
ถ้าจะพูดถึงบางโพ พื้นเพของย่านบางโพแห่งนี้เป็นศูนย์รวมงานเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่โด่งดังที่สุดของกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันกลายเป็นย่านรอยต่อระหว่างแนวดั้งเดิมกับความทันสมัย บางโพอยู่เป็นทำเลที่มีข้อได้เปรียบหลายอย่างที่ทำให้ในอนาคตจะพัฒนากลายเป็นย่านที่อยู่อาศัยที่น่าอยู่มากอีกแห่งของกรุงเทพ เพราะอะไรบางโพถึงพัฒนาให้กลายเป็นชุมชนเมืองแบบ Urbanization และกำลังจะเปลี่ยนเป็น Residential Area ที่น่าอยู่เราไปติดตามพร้อม ๆ กันนะคะ
1.เพราะบางโพเป็นที่สนใจของนักลงทุนภาครัฐและเอกชน (Attracting Investment) การเปลี่ยนแปลงของย่านบางโพเริ่มจากการมาของคอนโดมิเนียมหลายๆ โครงการ การลงทุนขนาดใหญ่โดยภาครัฐอย่างเช่น การก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ-ท่าพระที่สร้างสถานีในย่านบางโพ การสร้าง Skywalk เพื่อเชื่อมต่อสู่ท่าเรือบางโพในอนาคต โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่มีจุดตัดที่สถานีเตาปูนซึ่งใกล้กับบางโพแค่นิดเดียว โครงการรัฐสภาแห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างในย่านเกียกกายที่มีห้างสรรพสินค้าแนวใหม่เพียงหนึ่งเดียวในย่านบางโพนี้อย่าง Gateway Bangsue ทั้งหมดนี้ทำให้บางโพค่อยๆ เหมือนย่านอื่น ๆ อย่างสุขุมวิท รัชดาภิเษกที่พัฒนาไปก่อนมานานแล้ว
2.เพราะบางโพเดินทางสะดวก ทางด่วน รถไฟฟ้าวิ่งผ่าน เชื่อมต่อหลายสาย (Seamless Transportation) จะว่าไปย่านบางโพก็เป็นย่านเก่าแก่ที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ปัจจัยสำคัญก็มาจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำคัญอย่างสถานีบางโพซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินช่วงบางซื่อ – ท่าพระ และรถไฟฟ้ามาวิ่งตัดผ่านถนนประชาราษฎร์สาย 2 เพื่อข้ามไปยังฝั่งธนบุรีในช่วงถนนจรัญสนิทวงศ์ ทำให้บางโพกลายเป็นหนึ่งในจุดยุทธศาสตร์สำหรับการเดินทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เชื่อมพื้นที่ฝั่งธนบุรีและฝั่งพระนครเข้าไว้ด้วยกัน จะเปิดให้บริการภายในปี 2020
3.เพราะบางโพใกล้กับอนาคตที่มีความเป็นไปได้ (Brighter Future) นอกจากการคมนาคมทางรถไฟฟ้าที่นำพาความเจริญมาสู่ย่านบางโพแล้ว โครงการก่อสร้างของรัฐบาลก็มีส่วนทำให้ย่านบางโพคึกคักและเป็นที่จับตามองของนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำหลายราย ห่างออกไปเพียง 600 เมตรจากแยกบางโพก็เป็นที่ตั้งของรัฐสภาแห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างซึ่งโดยรอบๆ รัฐสภาแห่งใหม่ในรัศมี 800 เมตร จะไม่สามารถสร้างตึกสูงได้ แต่ย่านบางโพเป็นย่านที่สามารถสร้างอาคารสูงได้และตั้งอยู่ใกล้รัฐสภามากที่สุดย่านหนึ่ง จึงทำให้กลายเป็นข้อได้เปรียบเพิ่มมาอีกหนึ่งข้อ เมื่อรัฐสภาใหม่สร้างเสร็จก็ย่อมมาซึ่งตำแหน่งงานต่างๆ มากมาย ความต้องการที่อยู่อาศัยก็จะมีเพิ่มขึ้นเช่นกัน
4.เพราะบางโพมีห้างสรรพสินค้าเป็นของตัวเองแล้ว (Commercial Spot) จาก MRT สถานีบางโพเพียงแค่ 180 เมตรก็เดินถึงโครงการห้างแนวใหม่ที่ชื่อว่า “Gateway บางซื่อ” แห่งเดียวในย่านนี้ที่เข้ามาเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของชาวบางโพให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป ข้อดีของการมีห้างสรรพสินค้าในย่านนี้ก็คือจะเป็นเหมือนแม่เหล็กดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาอยู่รวมกันมากขึ้นในระยะยาว เพราะใคร ๆ ก็อยากอยู่ใกล้ห้างเพราะสะดวกสบายใกล้ของกิน ใช้ชีวิตสบายตามสไตล์คนในเมือง และส่งผลต่อ demand ความต้องการอยู่อาศัยในย่านรอบ ๆ อีกด้วย การมีห้างเป็นของตัวเองในย่านจึงเป็นการสร้างมูลค่าให้กับย่านนั้น ๆ ได้อย่างดี นอกจากนี้ยังมีสถานที่การค้าขายอีกหลายแห่งที่อยู่ใกล้หรือรอบๆ บางโพ ได้แก่ ตลาดสดศรีเขมา ตลาดเตาปูน, TESCO LOTUS ประชาชื่น, MAKRO สามเสน, Supreme Complex (สุพรีมคอมเพล็กซ์), BIG C วงศ์สว่าง, JJ Mall, The Mall งามวงศ์วาน, Central Plaza ลาดพร้าว
5.เพราะบางโพใกล้กับสถาบันการศึกษาชื่อดังและแหล่งงานมากมาย (Education Zone) จากย่านบางโพในรัศมี 1.5-3 กิโลเมตร มีที่ตั้งของสถาบันการศึกษาชื่อดังมากมาย ทั้งโรงเรียนราชินีบน โรงเรียนโยธินบูรณะ โรงเรียนเซนต์คาเบรียล มหาวิทยาลัยพระจอมเกล้าพระนครเหนือ โรงเรียนโยนออฟอาร์ค โรงเรียนราชินีบน โรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์ โรงเรียนกุลวรรณศึกษา โรงเรียนสามเสนวิทยาลัย รวมทั้งสถานพยาบาลอย่างวชิรพยาบาล โรงพยาบาลบางโพ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และยังใกล้แหล่งงานของหน่วยงานราชการ อีกมากมายบนย่านดุสิต นอกจากนี้การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพื่อเข้าเขตเมืองในย่านห้าแยกลาดพร้าว-จตุจักร หรือเดินทางเข้าสู่ย่านพระราม 9 หรือลึกเข้าเมืองชั้นในถึงอโศก สาทร สีลมก็เดินทางง่ายและสะดวกด้วยข้อดีของการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าจึงทำให้บางโพกลายมาเป็นตัวเลือกในการอยู่อาศัยสำหรับคนหลายกลุ่มมากขึ้นหลายระดับรายได้ค่ะ
6.เพราะบางโพกลายเป็นย่านคอนโดมิเนียมหรู ที่มีราคาสำหรับคนไทยซื้ออยู่เองได้จริง จากแรงกดดันด้านราคาที่ดินที่พุ่งสูงขึ้นของเขตเมืองกรุงเทพอย่างย่านอารีย์ สะพานควาย หมอชิตที่ปัจจุบันกลายเป็นว่าเราต้องพบกับคอนโดมิเนียมราคาตารางเมตรละทะลุ 200,000 บาทหรือเกินกว่านั้น ซึ่งเป็นราคาที่ทำให้คนไทยส่วนใหญ่เอื้อมไม่ถึงและขอโบกมือลาจากย่านเหล่านั้นออกไปอยู่ทำเลอื่น ๆ เพื่อปล่อยให้ชาวต่างชาติเข้าไปลงทุนซื้อ เหตุผลด้านราคาขายจึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้พื้นที่ย่านรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายอย่างบางโพกลายเป็นการตอบโจทย์สำหรับคนไทยในการซื้ออยู่อาศัยที่ต้องการทำเลน่าอยู่ เพราะราคาที่ดินยังไม่สูงเท่าย่านพหลโยธิน จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ดีเวลลอปเปอร์ค่อยๆ ขยับทำเลในการพัฒนาคอนโดมิเนียมมาเปิดโครงการตามแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน อีกทั้งย่านนี้ยังมีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถือว่าเป็นย่านหนึ่งที่วิวโค้งน้ำสวยที่สุดอีกด้วย
7.เพราะบางโพเป็นย่านผู้คนหลากหลายวัย คนสูงอายุ คนวัยทำงาน และเยาวชนอยู่ร่วมกัน (Multi-generation Living Area)เนื่องจากย่านบางโพเป็นชุมชนดั้งเดิมของกลุ่มคนที่ทำธุรกิจค้าไม้ เฟอร์นิเจอร์ไม้ต่าง ๆ ปัจจุบันลูกหลานของผู้ประกอบการค้าไม้ก็อาจจะเริ่มหันไปทำธุรกิจอื่นกันมากขึ้น ออกไปทำงานประจำด้านอื่น ๆ ตามที่ได้ร่ำเรียนมา มีคนทำงานรุ่นใหม่ที่ต้องการขยายครอบครัวออกจากบ้านหลักแต่ก็ยังผูกพัน ไม่อยากทิ้งทำเลเดิมที่โตมา ส่วนคนสูงอายุก็ยังคงปักหลักอยู่ในย่านบางโพ เราจะเห็นได้จากอาหารการกินสไตล์ดั้งเดิมก็ยังมีให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
8.เพราะบางโพเป็นย่านที่มีแม่น้ำและมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ (Waterscape and Healthy Environment) ย่านบางโพมีการคมนาคมทางรถยนต์ผ่านเส้นทางหลักคือถนนประชาราษฎร์สาย 1 ซึ่งเป็นถนนที่ทอดตัวยาวขนานไปกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งผลดีของการที่อยู่ใกล้แม่น้ำนั้น มีผลต่อสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย เพราะจะมีลมพัดเย็นสบาย นอกจากด้านคุณภาพอากาศที่ดีกว่าแล้ว คุณภาพชีวิตสำหรับการใช้ชีวิตให้มีสุขภาพดีก็ทำได้ง่ายเพราะย่านบางโพมีสวนสาธารณะใต้สะพานพระรามเจ็ด สำหรับวิ่งออกกำลังกายและผ่อนคลายที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาในยามเย็น หรือจะนั่งรถไฟฟ้าไปวิ่งที่สวนจตุจักรหรือสวนรถไฟก็ทำสะดวกสบาย
นอกจากนี้ถ้าเราเลือกอยู่คอนโดมิเนียมตึกสูงๆ ในย่านบางโพเราก็มีโอกาสได้เห็นวิวแม่น้ำที่สวยงาม ยิ่งในช่วงเย็นเวลาอาทิตย์ตกดินและช่วงกลางคืนจะสามารถพบเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามและหาดูได้ยากในเมืองกรุงเทพ