หากพูดถึงสถานการณ์ในช่วงนี้ เราต่างรู้กันว่าเศรษฐกิจมีการเติบโตไม่ค่อยดีนัก สืบเนื่องจากการระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบหลายภาคส่วนด้วยกัน โดยเฉพาะภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่อง จากวิกฤติโควิด และปฏิเสธไม่ได้ว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นตัวแปรสำคัญในการตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคและเทรนด์ที่อยู่อาศัยในช่วงนี้ วันนี้ทาง Fazwaz จะมาอัปเดตข่าวสารอสังหาฯ มาเจาะวิเคราะห์ข่าวสารกันว่าเทรนด์ที่อยู่อาศัยจะไปในทิศทางไหนกัน…

อสังหาฯ ยุคที่เปลี่ยนไป
อสังหาฯ ยุคที่เปลี่ยนไป

บ้าน-คอนโด จัดเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง และมีระยะเวลาผ่อนชำระที่ค่อนข้างยาวนาน ซึ่ง ณ ปัจจุบัน ผู้บริโภคบางกลุ่มยังไม่พร้อมที่จะลงทุน หรือควักเงินในกระเป๋าตังค์มาซื้อที่อยู่อาศัยในขณะนี้ และจากความสามารถในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันลดลง ทำให้ต้องวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม และให้ความสำคัญกับการมีเงินเก็บมากขึ้น ผู้บริโภคจึงใช้เวลาและความรอบคอบ ในการพิจารณาซื้อสินค้า และบริการต่าง ๆ มากตามไปด้วย โดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าที่ได้รับ บวกกับราคาที่เหมาะสม รวมถึงมีการเปรียบเทียบความเหมาะสมของค่าใช้จ่าย และความคุ้มค่าที่จะได้รับเมื่อเลือกซื้อหรือเช่าบ้าน คอนโดนั้น ๆ โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ กำลังซื้อที่มีจำกัดในเวลานี้ของผู้บริโภค จึงทำให้การเช่าที่อยู่อาศัย เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการซื้อ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินนั่นเอง

 

ซึ่งจากการสำรวจพบว่า ในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ของปี 2564 เกี่ยวกับเทรนด์การเช่าอสังหาริมทรัพย์ สำหรับอยู่อาศัย อย่างบ้าน หรือ คอนโด พบว่าความสนใจในการ “เช่า” นั้นมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 31% เมื่อเทียบกับเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม ของปี 2563 ที่ผ่านมา ที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ทั้งนี้สวนทางกับความสนใจซื้อในตลาดที่อยู่อาศัย ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเพียง 7% เท่านั้น โดยปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญ ทำให้ผู้บริโภคยุคนี้ หันมาพิจารณา และสนใจเลือกเช่าที่อยู่อาศัยมากกว่าซื้อ มีดังนี้ 

 

  • เศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง กระทบความมั่งคงต่ออาชีพ 

 

ผลกระทบทางเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2562 รวมกับวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตลอดปี 2563 กินระยะเวลายาวนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจปีนี้ยังคงไม่แน่นอน โดยข้อมูลจากสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ คาดว่าแนวโน้มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือ GDP ของปี 2564 จะขยายตัวอยู่ที่ 2.5%-3.5% ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงจากคาดการณ์เดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 3.5%-4.5% เนื่องจากยังมีผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่จะลงทุนและจ้างงานในอนาคต ทำให้ผู้บริโภคมีความกังวลกับความมั่นคงของอาชีพการงาน จึงให้ความสำคัญกับการวางแผนการเงินของครอบครัวมากขึ้น ปรับลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นเร่งด่วน เก็บเงินสำรองเพื่อลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินหากมีการเปลี่ยนแปลงด้านอาชีพ

 

  • ผู้บริโภคมองหาที่อยู่อาศัยในราคาที่เอื้อมถึง 

 

จากความสามารถในการใช้จ่าย ของผู้บริโภคในปัจจุบันลดลง ทำให้ต้องวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม ผู้บริโภคจึงใช้เวลาและความรอบคอบในการพิจารณาซื้อสินค้า โดยเน้นไปที่ความคุ้มค่าที่ได้รับบวกกับราคาที่เหมาะสม โดยเฉพาะทรัพย์สินที่มีราคาสูง มีการเปรียบเทียบความเหมาะสมของค่าใช้จ่ายและความคุ้มค่าที่จะได้รับเมื่อเลือกซื้อหรือเช่าบ้าน/คอนโดฯ โดยมีตัวแปรสำคัญ คือ กำลังซื้อที่มีจำกัดในเวลานี้ของผู้บริโภค ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การเช่าที่อยู่อาศัยเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการซื้อ 

 

  • เลือกเช่าเพื่อลดภาระผูกพันในระยะยาว

 

การเช่ามีภาระผูกพันที่น้อยกว่าการซื้อ ไม่มีสัญญาผูกมัดระยะยาว การเช่าที่อยู่อาศัยเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภควัยเริ่มต้นทำงานที่กำลังเริ่มสร้างฐานะ หรือมีภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อยู่แล้ว เพราะช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นบางส่วน ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถวางแผนการเงินเพื่อรองรับผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

 

  • มีความยืดหยุ่นในการโยกย้ายทำเล ได้ทดลองอยู่ก่อนซื้อขาด

 

ณ ปัจจุบันการเช่าไม่มีสัญญาผูกมัดในระยะยาว จึงมีข้อดีตรงที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้ทดลองอยู่อาศัยในทำเลที่สนใจเพื่อประเมินความพึงพอใจจากสภาพแวดล้อม ความเจริญในพื้นที่ รวมถึงการเดินทาง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อบ้าน/คอนโดฯ ในทำเลนั้น ๆ ในอนาคตได้ นอกจากนี้ยังสามารถเลือกเช่าที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อปรับเปลี่ยนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างไปในแต่ละช่วงวัยได้ง่ายขึ้น 

 

  • คนชะลอการซื้อ แต่ยังไม่พับแผน

 

แม้การเช่าที่อยู่อาศัยจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายในขณะนี้ แต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าส่วนใหญ่ยังอยากมีบ้านเป็นของตัวเองเมื่อมีความพร้อมมากพอ เนื่องด้วยความท้าทายจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ผู้บริโภคที่วางแผนซื้อบ้านจะใช้เวลาในการตัดสินใจนานขึ้นเพื่อรอดูทิศทางสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เข้ามาอิทธิพลด้านการเงินและการงาน 

"เช่า" ก็ไม่เสียหายนะ
“เช่า” ก็ไม่เสียหายนะ

จากข้อมูลข้างต้น ทำให้เห็นภาพกว้างได้ว่า ความต้องการซื้ออสังหาริมทรัพย์สำหรับอยู่อาศัย อย่างบ้าน-คอนโด ยังคงมีอยู่ แต่คนส่วนใหญ่ เลือกจะชะลอแผนการซื้อออกไปก่อน เพื่อเก็บเงินไว้กับตัว และรอดูแนวโน้มจากสถานการณ์ต่าง ๆ ในอนาคต ฉะนั้นการเช่าที่อยู่อาศัย ก็ถือเป็นอีกทางเลือก หรือเป็นตัวช่วยในการช่วยลดภาระในสถานการณ์ ณ ตอนนี้