ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า พื้นที่ห้องครัว เป็นส่วนสำคัญอย่างมากภายในบ้าน เพราะเป็นได้ทั้งมุมจัดเตรียมอาหาร พื้นที่นั่งรับประทานอาหารเช้า หรือเป็นสถานที่ต้อนรับแขกในบางโอกาส ห้องครัวจึงต้องเพียบพร้อมไปด้วยความสวยงาม และฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน วันนี้ทาง Fazwaz.co.th จึงมีคำแนะนำ 10 สไตล์สำหรับการตกแต่งห้องครัว ที่ควรหลีกเลี่ยงมาฝากกัน มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ


1.การไม่ใส่ใจพื้นที่ “สามเหลี่ยมห้องครัว”
   อินทีเรียดีไซเนอร์ มักจะพูดถึงเสมอเรื่อง “สามเหลี่ยมห้องครัว” ซึ่งประกอบไปด้วย ซิงค์ล้างจาน เตาทำอาหาร และตู้เย็น มักเป็นสามมุม ที่มีการใช้งานมากที่สุด และจะต้องจัดวางให้ตอบสนองกับการใช้งานได้ดีที่สุดด้วย ซิงค์ล้างจานถือว่าสิ่งที่ใช้งานบ่อยที่สุด ซึ่งควรจะต้องเข้าถึงได้ง่ายมากที่สุด รองลงมาคือ เตาและตู้เย็น รวมไปถึงการมีท็อปเคาน์เตอร์ที่กว้างเพียงพอ

 

Kitchen Layouts

ไม่ว่าห้องครัวของคุณจะมีความกว้าง มากน้อยเพียงใด (หรืออาจจะเป็นทรงตัว L ตัว U หรือแบบมีเคาน์เตอร์ไอซ์แลนด์) การรักษาระยะห่างของทั้งสามมุม ควรอยู่ระหว่าง 3-7 เมตร หากใกล้กันมากเกินไป สมาชิกในบ้านอาจจะเดินเบียดกันไปมา แต่ถ้าหากไกลเกินไป การจัดเตรียมอาหารแต่ละมื้อ ก็จะทำให้เกิดความเหน็ดเหนื่อยเกินความจำเป็น

2.ช่องเก็บของที่มีจำกัด
   ตามปกติแล้ว ห้องครัวควรมีช่องเก็บของที่เยอะพอสมควร เสมือนเป็นห้องเก็บของห้องหนึ่งเลยทีเดียว เพราะมีอุปกรณ์ที่ใช้งานมากมาย อาทิ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือทำอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย การออกแบบห้องครัว จึงต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ในการผสมผสาน เพื่อให้รองรับการใช้งานที่สะดวกสบาย และเป็นระเบียบเรียบร้อย แต่ด้วยราคาค่าใช้จ่ายที่สูง ทำให้ต้องรอบคอบเป็นพิเศษ ในการเพิ่มช่องเก็บของที่เพียงพอต่อการใช้งาน

ช่องเก็บของเหนือตู้เย็น

และการออกแบบห้องครัวส่วนใหญ่ มักละเลยพื้นที่อย่างเปล่าประโยชน์ เช่น พื้นที่เหนือตู้เย็น ที่ควรจะมีบิวท์อินตู้เก็บของ เพื่อเก็บของที่จำเป็นและไม่สูญเสียพื้นที่โดยเปล่าประโยชน์ไป ส่วนที่ไม่มีบิวท์อิน ก็อาจจะติดตั้งชั้นวาง หรือตะขอแขวนก็ได้

3.ไม่สนใจพื้นที่จัดเตรียมอาหาร
   หนึ่งในข้อผิดพลาดการออกแบบห้องครัว ที่มักจะพบเห็นได้บ่อย คือ ขาดพื้นที่สำหรับการจัดเตรียมอาหาร และกิจกรรมอื่น ๆ นอกจากพื้นที่เคาน์เตอร์ที่จัดวางเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่าง หม้อหุงข้าว ไมโครเวฟ และกาต้มน้ำแล้วนั้น ยังต้องมีพื้นที่ในการเตรียมอาหารอีกด้วย ทางออกที่ดีที่สุดคือ ควรมีงบประมาณที่เพียงพอ ต่อการเพิ่มไอซ์แลนด์ตรงกลางห้องครัว หรืออาจจะเติมบาร์ขนาดเล็ก เพื่อเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานค่ะ

4.แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ
   ข้อผิดพลาดต่อมาของห้องครัวคือ การมีแสงสว่างที่ไม่เพียงพอ เพราะนอกจากจะทำให้บรรยากาศภายในห้องครัวดูหม่นหมองแล้ว ยังรวมไปถึงอันตรายจากของมีคมต่าง ๆ อีกด้วย ดังนั้นพื้นที่จัดเตรียมอาหาร ควรจะมีแสงสว่างที่เพียงพอ ระบบไฟต่าง ๆ ควรโฟกัสลงมายังจุดที่ต้องการโดยตรง ซึ่งอาจติดตั้งอยู่ด้านล่างของตู้บิวท์อินแขวนผนัง แต่ในขณะเดียวกันนั้น การมีแสงไฟก็สามารถสร้างบรรยากาศ เพิ่มความสวยงาม และให้ตระหนักเสมอว่า ยิ่งมีแสงสว่างมากเพียงใด ยิ่งสามารถโชว์รายละเอียดอันสวยงาม ของห้องครัวได้อีกด้วย 

ห้องครัวที่มืดจนเกินไป
ห้องครัวที่มีแสงสว่างที่เพียงพอ

5.ละเลยผนังห้องครัว
    สำหรับบางคนมักตกแต่งห้องครัวโดยเน้นความสวยงามที่อุปกรณ์ต่าง ๆ และตู้บิวท์อินมากเป็นพิเศษ แต่ละเลยการตกแต่งผนังของห้องครัว ทั้งด้านข้างและด้านหลังเตา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาในระยะยาวได้ เพราะคราบไขมันต่าง ๆ อาจจะไปเกาะ และทำให้ยากต่อการทำความสะอาด จึงควรหลีกเลี่ยงการทาสีหรือติดวอลเปเปอร์ แต่ให้เลือกใช้วัสดุที่ง่ายต่อการทำความสะอาด เช่น กระเบื้อง โลหะ หรือพลาสติก เป็นต้น

ผนังกระเบื้อง

6.ลืมการหมุนเวียนอากาศ
   ถึงแม้ว่าห้องครัวสวยงาม และมีดีไซน์ที่สะดุดตา แต่หากมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ก็จะลดทอนความสวยงามไปในทันที ดังนั้น ควรให้ความสำคัญกับการหมุนเวียนอากาศ ภายในตัวบ้านด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมีที่ดูดควันหลากหลายรูปแบบ และจำหน่ายในราคาที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งตัวที่ดูดควันก็มีลักษณะพิเศษ คือสามารถช่วยดูดกลิ่นและควันต่าง ๆ ได้ ทำให้บ้านลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ได้เป็นอย่างดี

เตาพร้อมเครื่องดูดควัน

และการหมุนเวียนอากาศ ยังมีประสิทธิภาพในการช่วยยืดอายุการใช้งาน ของเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนได้อีกด้วย โดยเฉพาะหากบ้านเป็นแบบ Open Plan ห้องครัวอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นแล้วนั้น ก็ควรจะมีอากาศที่สดชื่น สำหรับทุกคนในครอบครัว

7.เลือกไอซ์แลนด์ห้องครัวผิดแบบ
   เมื่อพูดถึงเคาน์เตอร์ไอซ์แลนด์กลางห้องครัวนั้น เรามักจะคิดถึงพื้นที่เก็บของและพื้นที่จัดเตรียมอาหารที่กว้างขวาง แต่แท้จริงแล้ว ไอซ์แลนด์ที่ผิดรูปแบบหรือวางในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม จะทำให้ห้องครัว ไร้เสน่ห์และใช้งานยากทันที โดยเฉพาะหากกีดขวาง “สามเหลี่ยมห้องครัว” ที่เรากล่าวถึงในข้อแรก

อย่างน้อยที่สุด ไอซ์แลนด์ ควรจะมีความยาวประมาณ 120 ซม. และกว้างไม่ต่ำกว่า 60 ซม. และเมื่อจัดวางในห้องครัวแล้ว ควรจะมีพื้นที่ให้สมาชิกเดินโดยรอบ ได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญยังชี้อีกว่า หากห้องครัวกว้างไม่ถึง 2.4 เมตร และยาวไม่เกิน 3.4 เมตร ไม่ควรจะวางไอซ์แลนด์โดยเด็ดขาด เพราะจะบดบังพื้นที่ไปทั้งหมด

8.ไม่สนใจการรีไซเคิล
   ในปัจจุบัน แคมเปญการรณรงค์ เรื่องความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม มีความสำคัญมาก ดังนั้นจึงไม่ควรละเลยการคัดแยกขยะ ที่สามารถนำไปรีไซเคิลต่อได้ โดยอาจจะแยกขยะเป็นสองส่วน พร้อมทั้งมีถังขยะที่สวย เก๋ เพื่อเพิ่มสไตล์ให้กับตัวบ้านได้อีกด้วย

ช่องแยกขยะรีไซเคิล

9.ออกแบบล้ำสมัยเกินไป
    ข้อนี้อาจจะฟังดูแปลกไปหน่อย แต่การเลือกห้องครัวที่มีดีไซน์ใหม่ล่าสุด และเลือกอุปกรณ์ที่ล้ำอนาคตจนเกินไป อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากสีสันที่กำลังอินเทรนด์ในเวลานั้น ๆ อาจจะตกยุคในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และที่สำคัญคือ ชุดครัวดีไซน์ใหม่ล่าสุด ก็มักจะมีราคาที่แพงกว่าปกติ

ครัวที่ทันสมัย

10.ไม่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
   การออกแบบและสร้างห้องครัวด้วยตัวของคุณเอง อาจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ก็จริง แต่สุดท้ายอาจนำมา ซึ่งการสูญเสียค่าใช้จ่ายทางด้านเวลาและแรงกาย ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ จะตระหนักดี ถึงรายละเอียดและข้อควรระวังต่าง ๆ ที่เจ้าของบ้านอาจจะไม่ทราบ รวมถึงการช่วยสร้างสรรค์ไอเดีย ตามความต้องการและมีดีไซน์ที่ดีกว่าด้วยค่ะ


เห็นกันแล้วใช่มั้ยคะว่า 10 ข้อที่ควรหลีกเลี่ยงหากจะตกแต่งห้องครัวใหม่ ซึ่งถือเป็นความรู้ที่ดีมากเลยทีเดียว อยากให้นำไปปรับใช้ เพื่อให้เกิดประโยชน์กับทุกคนนะคะ และฝากติดตามเว็บไซต์ของพวกเราในบทความหน้ากันด้วยนะคะ