Digital Marketing สู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

จะเห็นได้ว่าในแวดวงของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้นจะต้องมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่ดี และการโฆษณาที่ได้ผลดีมาตลอดก็คือ การขึ้นป้ายโฆษณา หรือ Billboard ใหญ่ ๆ ใกล้โครงการ แต่อย่าลืมนะคะว่าการใช้วิธีนี้นั้นจำกัดแค่คนจำนวนหนึ่งที่อาศัยหรือผ่านสัญจร ในบริเวณนั้นเท่านั้นเอง จึงทำให้ ดิจิทัล หรือออนไลน์ มาร์เก็ตติ้ง ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญสำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถที่จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วประเทศและทั่วโลกอีกด้วย สำหรับวันนี้เราจะมาดูกันนะคะว่าการใช้ Digital Marketing นั้นจะเป็นประโยชน์กับเหล่า Develope และผู้บริโภคอย่างเรา ๆ อย่างไรกันบ้าง แต่ก่อนอื่นเราก็ต้องทำความรู้จักกับเจ้า Digital Marketing กันก่อนนะคะ ไปติดตามกันเลยค่ะ

Digital Marketing สู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
Digital Marketing สู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

Digital Marketing ก็คือการทำการตลาดสินค้าบนโลกออนไลน์ผ่านช่องทาง อินเตอร์เน็ตและโซเชียลเน็ตเวิร์ก ด้วยวิธีการทางเทคโนโลยี หรือเนื้อหาที่สร้างสรรค์ ต้องมีการวางแผนและศึกษาให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างจุดเด่นให้กับตัวสินค้า เพื่อกระตุ้นการซื้อสินค้าซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญ

ในการทำธุรกิจออนไลน์นั้นมีขั้นตอนในการทำงาน ดังนี้

1. Digital Marketing Strategy จะเป็นการคิดกลยุทธ์ และเลือกอาวุธทางการตลาดออนไลน์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายและธุรกิจนั้น ๆ

2. Media Planning & Buying เป็นการวิเคราะห์ เพื่อวางแผนในการเลือกสื่อออนไลน์ตามกลยุทธ์ที่วางไว้ รวมทั้งการประสานงานกับทางสื่อต่าง ๆ จะต้องมีการวิเคราะห์ผลลัพธ์ และปรับกลยุทธ์ระหว่างการทำงานเสมอ เพื่อผลลัพธ์ตามเป้าหมาย

3. Implementing & Analyzing เป็นขั้นตอนของการสร้างสรรค์เนื้อหา หรือรูปแบบเพื่อสร้างแคมเปญ เพื่อจะนำไปสู่การปิดการขายให้ได้

Digital Marketing อสังหาริมทรัพย์

พื้นฐานที่ต้องมีในการทำ Digital Marketing อสังหาริมทรัพย์

หัวใจสำคัญอย่างหนึ่ง ของการทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing)  คือ “เว็บไซต์” โดยเฉพาะการใช้เกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อย่างเช่น บ้าน คอนโด เพราะเว็บไซต์ของโครงการก็จะเป็นเหมือน Sales Gallery หรือหน้าตาของโครงการของเรานั่นเอง หลายๆโครงการไม่ประสบความสำเร็จในด้านนี้อาจจะเป็นเพราะแค่คิดว่ามีเว็บไซต์ก็พอแล้วโดยไม่ได้ให้ความสำคัญมากนัก บางโครงการทำโฆษณาใช้เงินมากมายแต่ไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องการตลาดออนไลน์ เพราะเวปไซต์อาจจะมีปัญหาก็ได้ ซึ่งจะเป็นที่รู้กันดีว่าการที่เราจะทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จนั้น ไม่ได้มีแค่เว็บไซต์เพียงอย่างเดียว จะต้องมีปัจจัยเพิ่มเติม ดังนี้

ปัจจัยสำคัญที่มีส่วนทำให้การตลาดออนไลน์ประสบความสำเร็จ

1. เครื่องมือ ที่ใช้ต้องเข้าถึงผู้คนได้มากก็คือสื่อ Online นั่นเอง เช่น การซื้อสื่อในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ต่าง ๆ เช่น Google, Facebook, YouTube, Instagram, Twitter รวมไปถึง Social Media แต่สื่อเพียงอย่างเดียวก็ไม่สามารถวัดความสำเร็จได้

2. ต้องมีการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการให้ได้เพราะโลกออนไลน์กลุ่มเป้าหมายไม่ใช่ทุกคน อาจจะแค่บางกลุ่มบางช่วงอายุเท่านั้น อย่างเช่น การขายบ้านหรือคอนโดออนไลน์ กลุ่มเป้าหมายของเราก็จะไม่ใช่ผู้บริโภคช่วงวัยรุ่นแต่จะเป็นกลุ่มผู้ทำงานเสียส่วนใหญ่

3. สำหรับคนที่ใช้เครื่องมือต้องใช้ให้เป็น อาจจะเป็น agent หรือเป็นลูกค้าเองก็ได้ แต่ควรมีประสบการณ์ บางบริษัทจ้างเด็กจบใหม่มานั่งดูแลฝ่าย Online Marketing ของโครงการ ไม่ได้เป็นสิ่งที่ผิดแต่การขาดประสบการณ์ หรือความเข้าใจในเครื่องมือ เช่น Google Analytics ที่เพียงพอ อาจทำให้การวางแผนหรือวิเคราะห์สิ่งที่ทำอยู่ผิดพลาด หรือขาดประสิทธิภาพได้

4. ให้วิเคราะห์ (Analyse) และวัดผล (Measure) อยู่ตลอดเวลา คือ ข้อดีของ Digital Marketing อย่างหนึ่งคือ ทุกการกระทำ หรือทุกสื่อที่ซื้อสามารถวัดผลลัพธ์ได้ ดังนั้น เราควรนำข้อมูลเหล่านี้มาวิเคราะห์ ปรับปรุง และแก้ไขกลยุทธ์ในเชิงการตลาดและการขายอยู่ตลอดเวลาหากวิธีการหรือรูปแบบเดิมที่ใช้อยู่ไม่ประสบความสำเร็จ

ข้อดีในการทำตลาดออนไลน์ในมุมองของผู้ประกอบการ (เปรียบเทียบกับออฟไลน์)

  1. สามารถที่จะวัดผลงานได้ อาทิเช่น ถ้าเรามีเว็บไซต์ เราสามารถที่จะวัดจากจำนวนผู้ที่เข้ามาคลิกเพื่อเข้าชมเว็บไซต์ หรือจำนวนผู้คนที่เข้ามาลงทะเบียนต่าง ๆ ไว้บนเว็บไซต์ของเรา
  2. มีความง่ายดายต่อการตรวจสอบ เช่น การขอข้อมูลเพิ่มเติมของลูกค้า การจัดเก็บประวัติของผู้ที่ลงทะเบียน เราสามารถที่จะดึงข้อมูลมาวิเคราะห์ได้ง่าย
  3. สามารถสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างชัดเจน
  4. การสื่อสารแบบ 2 ทาง เช่น ผู้ประกอบการและลูกค้าสามารถสื่อสารกันได้แบบตรงไปตรงมา
  5. เป็นการตลาดแบบตัวต่อตัว ผู้ประกอบการหรือเจ้าของโครงการสามารถกำหนดรูปแบบสินค้าและบริการได้ตามต้องการและตรงเป้าหมายมากขึ้น
  6. สามารถสื่อสารแบบทั่วโลกเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดและมีการสื่อแบบรวดเร็ว
  7. ต้นทุนต่ำและผลที่ได้มีประสิทธิภาพสูง เพราะการทำตลาดแบบออนไลน์นั้นจะมีราคาถูกกว่าสื่อโฆษณาแบบอื่น
ช่วยประหยัดเวลาและสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว
ช่วยประหยัดเวลาและสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ข้อดีของการทำตลาดออนไลน์ในมุมมองของผู้บริโภค (เปรียบเทียบกับออฟไลน์)

  1. ช่วยประหยัดเวลาและสามารถค้นหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว อาทิเช่น การเลือกซื้อสินค้าบางชนิดผู้บริโภคสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลและรายละเอียดของสินค้าได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว
  2. ผู้บริโภคสามารถที่จะเลือกใช้สินค้าหรือบริการได้ตรงความต้องการของตัวเอง เช่น สามารถที่จะเปรียบเทียบราคา ทำเล เพื่อให้ได้สิ่งที่ตรงตามความต้องการให้ได้มากที่สุด
  3. ผู้บริโภคสามารถที่จะลดค่าใช้จ่ายในการติดต่อกับเจ้าของสินค้า เพราะไม่จำเป็นต้องเดินทางไปดูสินค้า หรือรับสินค้าด้วยตนเองเฉพาะบางบริการเท่านั้น
  4. ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อจากข้อมูลที่ได้รับการรีวิว รายละเอียดของสินค้าหรือบริการนั้น ๆ หรือได้มีการศึกษา ข้อดี ข้อเสีย ก่อนการไปชมสินค้าจริง ทำให้มีความรู้ในเรื่องนั้น ๆ ก่อนการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น