การตรวจรับคอนโดไม่ว่าจะเป็นคอนโดมือหนึ่งหรือคอนโดมือสอง จัดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะราคาคอนโดมิเนียมไม่ใช่ราคาถูกๆ บางห้องมีราคาถึงหลายล้าน จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบสภาพคอนโดให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อ ว่าห้องอยู่ในสภาพดี และไม่รอยตำหนิบกพร่อง เพราะอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายในภายหลังได้ หากเข้ามาอยู่ในคอนโดแล้ว โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้วละก็ วันหนึ่งเกิดปัญหาขึ้นมา อาจจะทำให้ปวดหัว และยุ่งยากในการแก้ไข ตลอดจนเสียเงิน เสียเวลาและเสียความรู้สึกอีกด้วย
ข้อดีของการตรวจรับคอนโดมิเนียม
- มีความมั่นใจว่าซื้อห้องในสภาพที่ดีและสมบูรณ์ มีความปลอดภัยเมื่อเข้าพักอาศัย คุ้มค่ากับเงินที่จ่าย และไม่เสียความรู้สึกภายหลัง
- ลดโอกาสการเกิดปัญหาในภายหลัง เช่น กรณีนี้ คือลดโอกาสการเกิดปัญหาที่ไม่ได้อยู่ในเงื่อนไขข้อตกลง เช่น หากซื้อคอนในราคาโปรโมชั่นที่มีราคาถูกมาก เนื่องจากผู้ขายต้องการปิดการขายโดยเร็วที่สุด แต่เมื่อมีปัญหาในภายหลัง กลับมีกฎเงื่อนไขต่างๆนานาจนเหนื่อยใจที่ไม่เป็นไปตามสัญญา
- รักษาสิทธิผู้ซื้อ ผู้ซื้อควรได้รับสิทธิหรือการบริการที่ดีที่สุด และมีสิทธิที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมหากเกิดเหตุการณ์ที่ไม่เป็นธรรมขึ้นมา
ทั้งนี้ เราสามารถมีสิทธิ์เรียกร้องความเป็นธรรมได้ หากอยู่ในช่วงที่ยังไม่ได้เซ็นรับโอนกรรมสิทธิ์ แต่หากเราเซ็นรับเรียบร้อยแล้ว จ่ายเงินครบถ้วนตามขบวนการขั้นตอน ภาระทั้งหมดก็จะตกเป็นของเราโดยทันที และไม่สามารถเรียกร้องสิทธิ์ได้

เช็ครายการสำหรับตรวจรับคอนโด
- กระดาษโน้ต มีกาว แปะได้ สติกเกอร์สีเด่น ๆ – สำหรับ มาร์คจุดแก้ไข
- ตลับเมตร – สำหรับ วัดความยาว ความสูง ขนาดของห้องหรือสิ่งของ
- ลูกแก้ว ลูกปิงปอง – สำหรับ วัดระดับพื้น
- ถังน้ำ – สำหรับ รองน้ำ
- เงินเหรียญ – ไว้เคาะตรวจความหนาแน่นของกระเบื้อง
- ที่ชาร์จไฟ – หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่สะดวกแก่การพกพา
- ถุงเท้า – สวมถุงเท้าถูไปกับพื้นเพื่อตรวจสอบขอบคมของพื้นห้อง ความเรียบในงานไม้ (หากมี)
- ผ้า – สำหรับ เช็ดทำความสะอาด เคลียร์พื้นที่ที่ต้องการตรวจสอบความชื้น การรั่วไหลซึมของท่อ
- ไฟฉาย – สำหรับ ใช้ส่องบริเวณมุมอับ มุมมืด แสงสว่างไม่พอ ใช้ส่องผนัง
- อุปกรณ์ที่บันทึกภาพได้ เช่น โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป – เพื่อถ่ายภาพเป็นหลักฐานจุดที่มีการเน้นย้ำการแก้ไข
วิธีการตรวจรับคอนโด

1.งานเพดาน วิธีการตรวจงานเพดาน ทำได้โดยการตรวจดูด้วยตาเปล่า หรือการสัมผัส ซึ่งเพดานต้องมีความเรียบ ไม่เป็นคลื่น ไม่มีคราบน้ำ คราบเหลืองหรือดำสกปรก นอกจากนี้ โคมไฟบนฝ้าเพดานต้องติดตั้งอย่างแข็งแรง และตั้งอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง

2. งานผนัง สามารถสังเกตได้ด้วยตาเปล่า ตรวจสอบด้วยเงินเหรียญ และตลับเมตร ซึ่งผนังต้องไม่มีรอยแตกร้าว ไม่หลุดออก ความสูงจากพื้นถึงเพดานต้องตามสัญญาที่ระบุไว้ ผนังต้องดิ่งลงพื้น ตั้งฉาก ไม่ลาด ไม่เอียง การเข้าไปยืนดูใกล้ ๆ หรือเอาลำตัวเข้าแนบจะตรวจสอบได้ชัดเจนกว่าการยืนมองด้วยตาเปล่า นอกจากนี้ต้องเป็นผนังที่สามารถติดวอลเปเปอร์ได้อย่างเรียบสนิท โดยไม่มีฟองอากาศอีกด้วย
3. งานพื้น การตรวจการงานพื้นแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ พื้นห้อง และพื้นห้องน้ำ

พื้นห้อง สามารถใช้อุปกรณ์ เหรียญ ลูกแก้ว ลูกปิงปอง ถุงเท้า และตลับเมตรในการตรวจรับห้อง โดยวัดพื้นห้อง ว่าได้ขนาดตามที่ระบุไว้ในสัญญา และสามารถใช้วิธีโดยการเดินลากเท้า ใช้วิธีการสัมผัสในการตรวจสอบความเรียบของพื้น และใช้เหรียญเคาะตามพื้น เสียงต้องหนักแน่นจึงจะถือว่าใต้กระเบื้องมีการลงพื้นอย่างดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้ลูกแก้ว และลูกปิงปองวางไว้มุมห้อง เพื่อเช็คความราบเรียบของพื้น หากลูกแก้วหรือลูกปิงปองไหลเร็วไปข้างใดข้างหนึ่งแสดงว่าพื้นห้องมีความเอียง หรือ หากไหลมากองรวมกันแสดงว่าพื้นที่เป็นหลุมนั่นเอง

พื้นห้องน้ำ ต้องใช้อุปกรณ์ ถังน้ำ ลูกแก้วหรือลูกปิงปองในการตรวจรับ สามารถทำได้โดยการตรวจพื้นห้องทั่วไป เช็คเรื่องความหนาแน่นของพื้น เนื้อที่ ขนาด หรือขอบ แต่การตรวจพื้นห้องน้ำจะแตกต่างกันออกไป คือ หากลูกแก้วหรือลูกปิงปองไหลลงรวมกันที่บริเวณจุดระบายน้ำ แสดงว่าน้ำไม่ขังในห้องน้ำ
4. งานระบบน้ำ
ห้องครัว สามารถใช้อุปกรณ์ ผ้า และใช้การสังเกตดูด้วยตาเปล่า หรือการสัมผัส สิ่งที่ต้องเช็ค คือ
- ท่อเดินน้ำ รูระบาย ต้องไม่มีการรั่วซึม สามารถใช้ผ้าเช็คท้องอ่างและท่อให้แห้ง เปิดน้ำใส่อ่างล้างจานให้เต็ม โดยปิดรูระบายน้ำเอาไว้ และต้องไม่มีการรั่วซึมใดๆทั้งสิ้น
- ใช้ผ้าเช็คท้องอ่าง และท่อให้แห้ง เปิดน้ำใส่อ่างล้างจานให้เต็ม โดยเปิดรูระบายน้ำเอาไว้ แล้วดูใต้อ่างส่วนที่เป็นท้องอ่างและท่อเดินน้ำ สังเกตดูว่ามีการรั่วซึมไหม มีความชื้นเล็ดลอดออกมาจุดไหนหรือเปล่า
- เปิดน้ำให้ระบายออก ลองเปิดก๊อกน้ำดูให้สุดแรง ทดสอบระบบฉีดของน้ำ และสังเกตท่อระบายน้ำอีกครั้งระหว่างปล่อยน้ำไหลลงรูระบาย
5. งานระบบไฟ สามารถใช้อุปกรณ์สายชาร์จ หรือที่ชาร์จไฟ
- เปิด – ปิดไปทุกดวง หลายๆครั้ง และเช็คตำแหน่ง ตลอดจนความแข็งแรงของการติดตั้ง
- เช็คตำแหน่งของปลั๊กไฟ เหมาะสมกับจุดต่างๆในห้องหรือไม่ และเพียงพอต่อการใช้งานหรือเปล่า
- ตรวจสอบการเดินของกระแสไฟฟ้า ปลั๊กไฟสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ โดยนำที่ชาร์จไฟ หรือสายชาร์จมือถือ มาเสียบลองใช้งานทุกจุด เพื่อตรวจสอบความแน่ใจว่าไฟฟ้าสามารถใช้งานได้ตามปกติหรือไม่
- ตรวจเช็คเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอัน ทุกชิ้นที่ติดตั้งภายในห้อง ลองเปิดไฟทุกดวง เปิดแอร์ เสียบปลั๊กชาร์จไฟ ทดสอบระบบไฟฟ้าว่าหากหากใช้พร้อมกันจะสามารถทำได้ไหม และมีปัญหาติดขัดหรือเปล่า
- งานประตู หน้าต่าง และภาพรวมของห้อง สามารถตรวจสอบได้ด้วยสายตาเปล่า และการสัมผัส โดยที่ประตูต้องเปิด-ปิดสนิท ไม่มีเสียงเอียดอาด วงกบอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ติดตั้งอย่างเรียบร้อย กลอน กุญแจ ระบบล็อค และบานพับใช้งานได้ดี ประตูเลื่อนต้องเลื่อนได้ลื่น ไม่เกาะราง และไม่ตกราง แต่หากเป็นประตูกระจก ต้องตรวจสอบความแข็งแรง รอยแตกร้าวต้องไม่มี นอกจากนี้ ช่องใต้ประตูสูงมากเกินหรือไม่ ตาแมวสามารถใช้งานได้สมบูรณ์หรือไม่
- ความเรียบร้อยโดยรวม คือการตรวจสอบรอยเปื้อนต่างๆ จากปูน ยาแนว สี และเก็บงานละเอียดหรือไม่ ความเลอะเทอะตามพื้น หรือเฟอร์นิเจอร์ในห้องให้เรียบร้อย

ทั้งหมดนี้ เป็นบทความที่ทางเว็บไซต์บ้านไทยได้นำเสนอเกี่ยวกับการตรวจรับคอนโดก่อนการซื้อ ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งคอนโดมือหนึ่งและมือสอง ลองศึกษาดูนะคะก่อนตัดสินใจซื้อคอนโด