เลือกสีทาบ้านแบบไหนจะช่วยให้บ้านเย็น ประหยัดไฟ
สมัยนี้นวัตกรรมจำพวกวัสดุการก่อสร้างต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ บ้าน และ คอนโด เย็นสบายนั้น มีหลากหลายแบบมากมาย เช่น สีทาบ้าน หลังคาหรือกระเบื้องที่ใช้ เหล่านี้เป็นต้น ซึ่งหากเจ้าของบ้านเลือกสรรวัสดุให้ดี ๆ และมีการออกแบบบ้านเพื่อสอดคล้องกับธรรมชาติ เช่น ทิศทางลมและแสงแดด รับรองได้เลยนะคะว่าบ้านของคุณทั้งหลายก็จะเย็นสบายกว่าบ้านปกติทั่วไป
แม้แต่สีทาบ้าน ก็ไม่ได้ทำหน้าที่แค่เพียงสร้างสีสันและความสวยงามให้กับบ้านเท่านั้น แต่ด้วยนวัตกรรมสมัยใหม่ สีทาบ้านยังเป็นเสมือนเกราะป้องกันบ้านจากแสงอาทิตย์ ช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลงมีความเย็นสบายขึ้น และสำหรับบทความฉบับนี้ BaanThai ก็จะขอนำเทคนิคแนวทางในการเลือกสี การเลือกเฉดสี โทนสี และสีที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อน เพื่อทำให้บ้านของคุณมีความเย็นสบายกันนะคะ
ความเข้าใจผิด เรื่องสีโทนเย็น
ปัจจุบันก็ยังมีผู้คนจำนวนมากเข้าใจผิดเรื่องการเลือกสีเพื่อบ้านเย็น สมัยก่อนคนก็จะแนะนำให้เลือกสีโทนเย็นทาบ้าน จะช่วยให้บ้านของเราเย็นขึ้น แต่ความเป็นจริงแล้วสีโทนเย็นไม่ได้เกี่ยวกับความเย็นของบ้านเลยสักนิด คำว่าโทนเย็นนั้นจะหมายถึง มองไปแล้วให้ความรู้สึกเย็นตา สบายตา ผ่อนคลาย โดยสีโทนเย็นจะสื่อถึงธรรมชาติ น้ำ ท้องฟ้า ต้นไม้ เช่น สีเขียว สีฟ้า และสีโทนร้อนก็จะสื่อถึงไฟ พระอาทิตย์ เช่น สีแดง สีส้ม จะสังเกตได้ว่าสีทั้งสองกลุ่มนี้เมื่อมองด้วยตาเปล่าจะให้ความรู้สึกต่างกัน สีโทนเย็นเมื่อมองไปแล้วรู้สึกสงบเย็น ส่วนกลุ่มสีโทนร้อนมองไปแล้วรู้สึกดุเดือด ร้อนแรง และทั้งหมดนี้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกไม่เกี่ยวกับอุณหภูมิบ้านเลยนะคะ
ความอ่อนเข้มของสี มีผลกับอุณหภูมิ
จุดสำคัญที่มีผลกับอุณหภูมิบ้านจึงไม่ใช่โทนสี แต่กลับกลายมาเป็นระดับความอ่อนเข้มของสีนั้น ๆ เช่น สีเขียวเข้มสามารถดูดซับความร้อนได้มากกว่าสีเขียวอ่อน บ้านที่ทาสีเขียวเข้มจึงร้อนกว่าบ้านที่ทาด้วยสีเขียวอ่อน หรือหากจะเปรียบเทียบกับความเข้าใจผิดเรื่องโทนสีให้ชัด ๆ ตัวอย่าง สีเขียวเข้มเป็นสีโทนเย็น มีคุณสมบัติในการดูดซับความร้อนได้มากกว่าสีส้มอ่อนซึ่งเป็นสีโทนร้อน บ้านที่ทาสีด้วยสีเขียวเข้ม แม้จะเป็นกลุ่มสีโทนเย็นแต่อุณหภูมิภายในกลับร้อนกว่าบ้านที่ทาด้วยสีส้มอ่อน ซึ่งเป็นสีโทน
เพราะว่าความเข้มของสีมีผลต่อคุณสมบัติการดูดซับความร้อน เช่น ถ้าเราไปยืนในที่ที่มีแสงแดดจ้า หากเรามองไปยังวัตถุสีเข้มจะไม่รู้สึกแสบตามากนัก แต่หากมองไปยังวัตถุใด ๆ ในโทนสีอ่อน ยิ่งอ่อนไปถึงจุดสีขาวจะยิ่งแสบตามากขึ้น นั่นเป็นเพราะสีอ่อนมีคุณสมบัติสะท้อนแสงออก การสะท้อนแบบนั้นก็เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันความร้อนนั่นเอง เพราะฉะนั้นหากคุณต้องการให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็น การเลือกสีโทนอ่อนจึงเย็นกว่าสีโทนเข้มอย่างแน่นอน และสีที่สามารถสะท้อนความร้อนได้ดีที่สุดคือสีขาว
ชอบสีเข้มมากกว่าสีอ่อน แต่ยังอยากได้บ้านเย็น
ความชอบของแต่ละคนนั้นย่อมมีความแตกต่างกัน และคงดูจำเจไม่น้อยหากตัวเลือกในการทาสีบ้านมีเพียงสีอ่อน ผู้ผลิตสีจากหลาย ๆ ค่าย จึงได้คิดค้นนวัตกรรมสีทาบ้านเพื่อให้สีเข้มมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ทำให้คุณก็จะได้ทาบ้านสีเข้มได้อย่างสบาย อันนี้คุณก็จะต้องสอบถาม ค้นคว้า หาข้อมูลดูกันนะคะว่าค่ายไหนบ้างที่มีสีโทนเข้มและมีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนได้ดี ทำให้บ้านนั้นเย็นสบาย
เมื่อบ้านเย็นขึ้น ค่าไฟย่อมถูกลง
และแน่นอนค่ะเมื่อบ้านเย็นคือความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ช่วยให้สมาชิกภายในครอบครัวมีสุขภาพกายและใจที่ดีขึ้น ส่วนผลลัพธ์ทางอ้อมคือการช่วยลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ และไม่ต้องเปิดพัดลมตลอดเวลา เพราะเมื่อบ้านเย็นลงแล้วในวันที่อากาศดี ๆ ผู้อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ แต่หากวันไหนอากาศร้อนหน่อย การเปิดแอร์ภายในห้องที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจะช่วยให้แอร์ทำงานเบาลง มองผลลัพธ์ในระยะยาวจะยิ่งคุ้มค่า ประหยัดค่าไฟ และยืดอายุการใช้งานของเครื่องใช้ไฟฟ้าได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ
นอกจากสีทาบ้านแล้ว ปัจจุบันยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ มากมาย ที่ช่วยปกป้องบ้านจากความร้อน ช่วยให้บ้านของเราเย็นขึ้นได้ ทั้งฉนวนกันร้อน หลังคากันความร้อน ผนังอิฐกันร้อน หากผู้อ่านพิถีพิถัน ให้ความสำคัญในการเลือกใช้วัสดุ เลือกเฉพาะวัสดุที่สามารถกันร้อนได้มาใช้ร่วมกันนั้น และมีการออกแบบบ้านให้รับกับธรรมชาติ ปลูกต้นไม้ยืนต้นรอบ ๆ บริเวณตัวบ้าน องค์ประกอบทั้งหมดนี้ จะยิ่งทำให้บ้านของเรามีอุณหภูมิต่ำลงได้อีกมาก