บ้านราคาไม่ถึงล้านกระแสมาแรง

บ้านราคาไม่ถึงล้านกระแสมาแรง

เราต่างก็ทราบดีว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปัจจุบันนี้เริ่มมีการชะลอตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2561 เนื่องจากต้นปี 2562 ได้มีหลายปัจจัยมากระทบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะมาตรการของภาครัฐ ตั้งแต่มาตรการคุมการขอสินเชื่อสำหรับที่อยู่อาศัยหรือ LTV ที่มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้ผู้ประกอบการได้มีการเร่งจัดแคมเปญเพื่อเร่งการโอนกันอย่างคึกคัก ประกอบกับภาครัฐก็ได้ออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ที่คาดว่าจะช่วยให้คนที่อยากมีบ้านได้มีบ้านกันง่ายขึ้น และเป็นการกระตุ้นให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เดินหน้า และเป็นการหนุนให้บ้านราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และบ้านมือสองจะได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก สำหรับวันนี้ BaanThai จะนำข่าวสารและความคืบหน้าเหล่านั้นมาให้ติดตามกันนะคะ

รัฐบาลได้ออกมาตรการเอื้อคนที่อยากมีบ้าน

รัฐบาลจึงได้ออกมาตรการต่าง ๆ ช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้คนมีบ้านได้ง่ายขึ้น ก็จะได้แก่ มาตรการลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก จำนวนเงินสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท สำหรับบ้านหรือคอนโดมิเนียมในราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท และได้มีมาตรการลดค่าโอนอสังหาริมทรัพย์และจำนองเหลือ 0.01% จากเดิม 2% และลดค่าโอนห้องชุดและจำนองห้องชุด 0.01% จากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนองในราคาซื้อขายและวงเงินจำนองไม่เกิน 1 ล้านบาท

ผู้ประกอบการเร่งระบายสต็อก

ปัจจุบันผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์กำลังเร่งขายบ้านในสต๊อกที่เหลือขายจากปีก่อน จำนวน 154,765 ยูนิต จากโครงการทั้งหมดจำนวน 492,436 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นบ้านจัดสรร 86,113 ยูนิต และคอนโดมิเนียม 68,652 ยูนิต ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด เพื่อหวังที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้าย อย่างไรก็ตาม บ้านจัดสรรยังคงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคอยู่มาก ในขณะที่คอนโดมิเนียม ผู้บริโภคมีความต้องการซื้อที่ชะลอตัวลง ดังนั้น ในครึ่งปีหลังคาดว่าจะเห็นภาพผู้ประกอบการเลือกลงทุนในทำเลที่มีความหนาแน่นของประชากรและเป็นทำเลที่น่าสนใจสำหรับผู้บริโภคเท่านั้น

โอกาสบ้านราคาไม่ถึงล้าน-บ้านมือสองบูม

สิ่งที่น่าจับตาอีกอย่างหนึ่ง คือบ้านมือสอง ซึ่งมีอยู่ประมาณ 10,000 ยูนิตส่วนใหญ่มีราคาไม่ถึง 1 ล้านบาท และกำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีราคาถูกกว่าบ้านใหม่ถึง 30% และสามารถตอบโจทย์ผู้ซื้อที่มีกำลังซื้อน้อย ประกอบกับไม่มั่นใจว่าจะกู้ซื้อบ้านจากธนาคารผ่านหรือไม่ เพราะเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อจากธนาคารมีความเข้มงวด จึงทำให้คนสนใจมองหาบ้านราคาถูกมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากที่มีผู้ยื่นกู้ซื้อบ้านในโครงการบ้านล้านหลังของธนาคารอาคารสงเคราะห์เป็นจำนวนมาก

ลดค่าโอน-จดจำนอง ช่วยประหยัด 20,000 บาท

มาตรการดังกล่าวกำหนดให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์ 0.01% จากเดิม 2% ของราคาประเมินทุนทรัพย์ รวมถึงให้เรียกเก็บค่าจดทะเบียนการโอนห้องชุดและค่าจดทะเบียนการจำนองห้องชุด 0.01% จากเดิม 1% ของมูลค่าที่จำนอง หากซื้อบ้านในโครงการบ้านล้านหลังราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท จะประหยัดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองถึง 20,000 บาทเลยทีเดียว โดยสามารถนำเงินส่วนนี้ไปผ่อนเป็นค่าเช่าบ้านรายเดือนซึ่งจะต้องผ่อนประมาณ 3,800 บาทต่อเดือนได้ถึง 5 เดือน

ทั้งนี้ ในเดือนกันยายน 2562 นั้น จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนโครงการบ้านล้านหลังระยะที่ 2 อีกครั้ง ในขณะที่โครงการบ้านล้านหลังระยะแรกอยู่ระหว่างการตรวจสอบและเร่งอนุมัติเงินกู้ให้เสร็จสิ้นภายในเดือนกรกฎาคมนี้

โครงการบ้านล้านหลังธนาคารอาคารสงเคราะห์

แม้จะเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐสนับสนุนในภาคอสังหาริมทรัพย์ช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยมีโอกาสมีบ้าน แต่ทั้งนี้มีผู้ประกอบจำนวนไม่น้อยที่มองว่ามาตรการดังกล่าวไม่ได้ช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในภาพรวมได้มากนัก เนื่องจากที่อยู่อาศัยที่ราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท ในเขตกรุงเทพฯ มีน้อยมาก รวมทั้งผู้ประกอบการไม่นิยมพัฒนาโครงการที่มีราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท จากต้นทุนราคาที่ดินและราคาก่อสร้างสูง จะมีก็แต่คอนโดมิเนียม ซึ่งจะเป็นโครงการเก่าที่สร้างเสร็จมาแล้ว 3-5 ปี ทำให้การจะมองหาโครงการใหม่ ๆ คงเป็นไปได้ยาก จึงเป็นโอกาสของตลาดบ้านมือสองที่จะก้าวขึ้นมาทดแทน