ขจัดฝุ่นในคอนโดฯอย่างไรให้เกลี้ยง ทุกซอกทุกมุม

วันนี้แอดมินจะพาผู้อ่านทุก ๆ คนมาทำความรู้จัก “ฝุ่น” เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงรู้จักกันดีและเป็นสิ่งที่ไม่มีใครชอบเจ้า ฝุ่น นี้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าฝุ่นจะมีขนาดเล็กแต่มีฤทธิ์ร้ายแรงไม่เบาเลยนะคะ เพียงแค่พูดถึง ฝุ่น ก็จะเริ่มแสบคอแสบจมูกอยากจะจามเอาจริง ๆ ยิ่งสำหรับบางคนจะมีอาการแพ้เจ้า ฝุ่น นี้มากเสียด้วยเจอกันทีไรเป็นต้องทั้งจาม ทั้งไอ ไม่รู้จบแน่นอน

สำหรับประเทศไทยเองก็เพิ่งจะโดน “ฝุ่นพิษ” เล่นงานมาแล้วก่อนนี้ประมาณช่วงปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งถือว่าหนักเอาการทีเดียว ทำให้ประชาชนต้องหาซื้อหน้ากากมาสวมใส่ตลอดเวลาที่อยู่นอกบ้าน หรือ นอกอาคาร ทำให้หน้ากาก N95 ถึงกับขาดตลาดและมีราคาสูงลิ่วกันเลยทีเดียว คราวนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ “ฝุ่น” กันอย่างละเอียดกันนะคะ

ฝุ่นมาจากไหนกันล่ะ จะมีผลกระทบต่อเรามากแค่ไหน?

ถ้าจะพูดถึงสาเหตุของการเกิดฝุ่นนั้นมีหลากหลายสาเหตุและหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศที่มีความนิ่ง อากาศปิดส่งผลให้มีฝุ่นละอองสะสมมากยิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ ด้วยกรุงเทพฯ นั้นเป็นใจกลางเมืองแบบนี้ก็เป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดมลพิษอยู่แล้ว หลักๆคือเกิดจากมลพิษจากยานพาหนะ รถยนต์ส่วนตัว รถประจำทางต่าง ๆ หรือการก่อสร้างตึกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือ คอนโด ต่างก็มีการก่อสร้างอยู่ตลอดเวลา และเริ่มที่จะผุดขึ้นมาใหม่เป็นจำนวนมาก รวมไปถึงการก่อสร้าง ทางด่วนพิเศษ หรือรถไฟฟ้าสายใหม่ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ทำให้เกิดฝุ่นละอองที่เป็นผลเสียต่อสุขภาพได้แม้มองไม่เห็น

มีประชาการมากกว่า 7 ล้านคนที่เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศ

ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงพอควรนะคะสำหรับคนที่เสียชีวิตจากมลพิษทางอากาศนั้นมีผลกระทบต่อสุขภาพของคนโดยตรง โดยการที่เราได้สูดดมเข้าไปในทุก ๆ วันของการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งองค์กรอนามัยโลก(Word Health organization WHO) ได้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับด้าน Air Pollution and Health ไว้ว่า มลพิษทางอากาศทำให้คนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร มลพิษทางอากาศทำให้คนเสียชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ  และโดยเฉพาะมลพิษทางอากาศจากการหุงหาอาหารในครัวเรือน การเผาไหม้เชื้อเพลิง และเทคโนโลยีต่าง ๆ มีผลทำให้คนเสียชีวิตถึง 3.8 ล้านคนในปีเดียวกันอีกด้วย

สำหรับประชากรก็ได้หายใจเอาอากาศที่มีมลพิษสูงเข้าสู่ในร่างกาย เมื่อเราได้รับฝุ่นในปริมาณที่มากเกินไปก็จะส่งผลให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ เช่น ผงฝุ่น เขม่าดำพวกมันจะเข้าไปเกาะลึกในปอด ระบบหัวใจและหลอดเลือก เขม่าดำเกิดมาจากกระบวนการเผาไหม้ต่าง ๆ อย่างการเผาเศษวัชพืชและต้นไม้ การเผาเชื้อเพลิงที่แข็งขึ้นมาหน่อย อย่างถ่าน ไม้ ฟืนเพื่อประกอบอาหาร และการเผาไหม้จากเชื้อเพลิงน้ำมันของรถยนต์ สิ่งเหล่านี้เป็นแหล่งที่มาของการเกิดมลพิษทางอากาศที่มาจากนอกบ้านทั้งสิ้น ก็จะต้องเสียเงินในการรักษาตัวใน สถานที่พยาบาล ทำให้เราต้องขาดงาน ลางาน ไม่สามารถไปทำงานได้ ก็จะส่งผลกระทบให้กับจิตใจของเราได้เช่นกัน

และสำหรับฝุ่นแล้วนั้นนอกจากจะมีผลกระทบกับร่างกายของเรา ตัว บ้าน หรือคอนโดมิเนียม ที่เราอาศัยอยู่นั้น ก็จะมีการสะสมและกักเก็บฝุ่นภายในบ้านหรือคอนโดได้เป็นอย่างดีเช่นกัน ดังนั้น คุณทั้งหลายจะต้องหมั่นทำความสะอาดให้บ้านหรือห้องของคุณไม่มีฝุ่นกันดีกว่านะคะ

ปฎิบัติการเฝ้าระวังฝุ่นพิษกับวิธีการกำจัดให้ฝุ่นเบาบางลง

การที่เราจะทำให้ฝุ่นหมดไป 100% เลยนั้นถือว่าเป็นเรื่องยากมาก เอาเป็นว่าเราจะทยอยทำความสะอาดบ่อย ๆ ไม่ให้มันมีเพิ่มมากขึ้นจะดีกว่า ยิ่งหากใครอยู่คอนโด พื้นที่เล็ก ๆ หรือแคบ ๆ ยิ่งต้องระวัง และวันนี้จะนำวิธีในการกำจัดฝุ่นสำหรับบ้านและคอนโดของคุณมาฝากกันนะคะ แต่จะมีวิธีไหนบ้างไปดูกันเลย

เก็บเสื้ือผ้าไว้ในตู้ให้มิดชิด
เก็บเสื้ือผ้าไว้ในตู้ให้มิดชิด

เริ่มต้นด้วยกำจัดจุดที่เป็นต้นตอของฝุ่น

-เสื้อผ้าควรเก็บเข้าตู้และปิดให้มิดชิด ไม่ควรแขวนไว้ด้านนอก

-พรมปูพื้น จะเป็นของแต่งบ้านที่เป็นแหล่งเก็บฝุ่นได้ดีมาก คุณลองเปลี่ยนมาใช้พื้นไม้หรือพื้นยางแทนพรมปูพื้นจะดีกว่านะคะ

-คนไหนที่เป็นนักสะสมของไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตา แผ่นเพลง หรือกระเป๋าก็ตาม หาตู่ที่มีกระจกปิดจะช่วยได้เยอะ เพื่อลดปริมาณฝุ่นเกาะจับตามสิ่งเหล่านั้น

-ส่วนในห้องนอนนั้นควรที่จะตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นที่สุด และควรเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ทำความสะอาดได้ง่าย ผ้าปู ปอกหมอนใช้แบบที่ซักรีดได้ง่าย

ห้องนอนควรตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นที่สุดลดการสะสมของฝุ่น
ห้องนอนควรตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้นที่สุดลดการสะสมของฝุ่น

-หากตกแต่งบ้านจัดให้มีซอกมุมน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อจะได้ทำความสะอาดได้สะดวก และลดแหล่งที่จะกักเก็บฝุ่นได้

-ก่อนไปทำงานปิดประตู หน้าต่างให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันฝุ่นเข้ามาในบ้านเพิ่มในระหว่างวันที่เราไม่อยู่

กำจัดฝุ่นโดยการทำความสะอาดแม้อุปกรณ์น้อยนิดก็ทำได้!

-น้ำยาปรับผ้านุ่ม ไม่ทำให้ฝุ่นฟุ้ง

น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ช่วยซักผ้าก็ใช้เช็ดฝุ่นได้เหมือนกัน เพียงแค่นำไปผสมกับน้ำเปล่า 1 ส่วน ต่อน้ำ 4 ส่วน จากนั้นเทใส่ขวดสเปรย์นำไปฉีดบริเวณที่มีฝุ่นเกาะอยู่ จากนั้นก็ใช้ผ้าเช็ดออกให้สะอาด บ้านสะอาดและหอมไปในตัว

-ที่คีบอาหาร

ซอกมุมที่ทำความสะอาดยากฝุ่นก็มักจะเข้าไปอยู่เยอะ อย่างม่านหรือมูลี่บังแดดที่เป็นซี่ๆ ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เราสามารถทำ DIY ได้เองแบบประหยัด เพียงเอาผ้าไมโครไฟเบอร์ที่ใช้เช็ดฝุ่นโดยเฉพาะมาพันไว้รอบที่คีบอาหารทั้งสองด้าน ใช้หนังยางมัดให้แน่น และนำไปคีบมู่ลี่ทีละชั้น แค่นั้นเราก็จะมีอุปกรณ์ชั้นดีในการกำจัดฝุ่นสำหรับมู่ลี่และม่านที่เป็นซี่ ๆ แล้วล่ะคะ

-ทิชชู่เปียกก็เช็ดฝุ่นได้

-ทิชชู่เปียกก็เช็ดฝุ่นได้

เป็นอุปกรณ์ที่หาได้ไม่ยากเลย มันสามารถกำจัดฝุ่นละอองหรือคราบสกปรกได้ดี ทั้งเฟอร์นิเจอร์หรือเสื้อผ้าก็ได้ ช่วยดักจับฝุ่นและไม่ให้ฝุ่นฟุ้งกระจายออกไปอีก

-ไข่ขาวช่วยให้ใบไม้กลับมาเงางาม

สำหรับต้นไม้ที่โดนฝุ่นเกาะก็คงจะแย่ไม่ต่างจากเราแน่นอน การทำความสะอาดง่าย ๆ เพียงแค่นำเอาไข่ขาวผสมกับน้ำอุ่น จากนั้นเอาสำลีไปชุบและเช็ดบนใบไม้เบาๆ ต้นไม้ก็จะกลับมาสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นมาอีกครั้ง

-หมั่นล้างแอร์ไม่ให้ฝุ่นเกาะ

สำหรับแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศก็เช่นกัน ก็หมั่นล้างสม่ำเสมออย่าทิ้งไว้นานเพราะฝุ่นก็ชอบเข้าไปสะสมอยู่ในนั้นเช่นกัน อาจจะจ้างช่างมาล้างแอร์ซึ่งมีให้บริการค่อนข้างมากในสมัยนี้ หรือจะศึกษาจากโลกออนไลน์และล้างเองก็ได้เช่นกัน ถือว่าเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าและได้ออกกำลังกายไปในตัวด้วย

อย่างไรก็ตาม นอกจากจะดูแลบ้าน คอนโด หรือที่อยู่อาศัยของตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมหาซื้อหน้ากากอนามัยพกติดตัวไม่ว่าจะเป็นตอนทำความสะอาดบ้านหรือออกไปข้างนอก เพียงหยิบขึ้นมาใช้ก็ป้องกันฝุ่นได้อีกรูปแบบหนึ่ง ต่อไปนี้ฝุ่นจะมากหรือน้อยเพียงใด เราก็ไม่หวั่นเพราะถ้าหากรู้วิธีรับมือก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป!