กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย และถือว่าเป็นจังหวัดที่มีผู้คนอาศัยเป็นจำนวนมากที่สุดและปัจจัยที่ทำให้กรุงเทพฯมีประชากรเพิ่มขึ้น เนื่องจากกรุงเทพฯกลายเป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของใครหลายคน แถมบางคนกลับอาศัยอยู่ในบ้านหลังที่สองเป็นเวลานานกว่าบ้านหลังแรกอีกด้วย

การที่กรุงเทพฯเป็นแหล่งทำมาหากินของคนเกือบทั่วประเทศและเป็นบ้านหลังที่สอง ทำให้จากเดิมที่มีที่อยู่อาศัยอย่างเพียงพอ กลายเป็นที่อยู่อาศัยมีจำนวนน้อยกว่ากับจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยสาเหตุนี้จึงทำให้มีการเกิดจำนวนที่พักอาศัย อพาร์ทเมนต์และคอนโดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการสร้างที่อยู่อาศัยจำนวนมาก เพื่อเป็นทางเลือกของผู้คนในกรุงเทพมากขึ้นเพียงใด ขนาดของที่อยู่อาศัยกลับมีขนาดเล็กลงจากคอนโดหลายๆแห่ง ไม่เพียงแค่พื้นที่ใช้สอยจะมีขนาดเล็กเท่านั้น แต่ราคาให้เช่าของหอพัก คอนโด หรืออพาร์ตเมนต์ล้วนมีราคาถูกเช่นกัน  การแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้ดูเหมือนจะช่วยรองรับการหาที่อยู่ได้ก็จริง แต่เมื่อมองถึงภาพรวมแล้ว กลับพบว่ายิ่งที่อยู่อาศัยมีขนาดเล็กยิ่งทำให้เกิดปัญหาในอนาคตได้ เช่น

เมื่อครอบครัวมีขนาดใหญ่ขึ้น

เมื่อมีครอบครัวและลูกหลายคน ส่งผลให้ต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวที่มากขึ้น ดังนั้นหากไม่สามารถย้ายไปอยู่อาศัยในบ้านหรือพื้นที่ที่มีกว้างกว่า ก็จะต้องอาศัยอยู่อย่างแออัดเลยทีเดียว

คุณภาพชีวิตที่แตกต่าง

ต้องยอมรับว่าการอยู่อาศัยแบบหอพักนั้นถือว่าเป็นการอาศัยที่ต้องอยู่รวมกับผู้คนจำนวนมาก ทำให้ไม่รู้เลยว่าใครเป็นคนแบบไหน รวมทั้งมีพื้นที่สีเขียวน้อยมากและพื้นที่อยู่อาศัยแออัด ส่งผลต่อเรื่องมลภาวะและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากมียานพาหนะรวมกันเป็นจำนวนมากนั่นเอง

เสียค่าเช่าโดยที่ไม่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ

หากเปรียบเทียบกับการซื้ออสังหาริมทรัพย์เป็นเจ้าของแล้ว การผ่อนรายเดือนหรือจ่ายค่าเช่ารายเดือน จะเห็นได้ว่าจำนวนเงินที่ต้องเสียรายเดือนนั้นไม่มีสิทธิ์ต่อการเป็นเจ้าของ การซื้อคอนโดสักห้องหรือบ้านสักหลังนั้น เรามีสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของเมื่อจ่ายครบสัญญา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องแลกด้วยจำนวนเงินที่มาก เมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพของคนกรุงเทพฯ แล้วยังถือว่าเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายคนอีกด้วย

เมื่อมีปัญหาตามมาแล้ว ย่อมมีแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อย โดยที่ทางรัฐมมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การแก้ไขปัญหาดังกล่าวนั้น มีดังนี้

  1. โครงการบ้านเอื้ออาทร

โครงการบ้านเอื้ออาทรสร้างให้กับผู้ที่มีรายได้น้อย คือ มีรายได้เดือนละไม่เกิน 10,000 – 15,000 บาท โดยส่วนใหญ่แล้วลักษณะของบ้านเอื้ออาทรจะมีลักษณะเป็นแบบแฟลตและบ้านเดี่ยวขนาดเล็ก ซึ่งมีตารางการผ่อนชำระอยู่ที่ราวๆ 1,000 – 2,000 บาท ในระยะเวลาไม่เกิน 30 ปี

  1. โครงการบ้านมั่นคง

โครงการบ้านมั่นคง เป็นโครงการที่อยู่อาศัยให้ของคนในชุมชน ที่มีปัญหาในเรื่องของสาธารณูปโภค การปรับเปลี่ยนผังการก่อสร้างใหม่ หรือแม้แต่การโยกย้ายชุมชนเดิมไปยังแหล่งที่อยู่ใหม่ เพื่อให้ดำเนินการใช้ชีวิตได้สะดวกและง่ายขึ้นอีกด้วย

  1. โครงการบ้านยั่งยืน

โครงการบ้านยั่งยืนจะมีรูปแบบไม่แตกต่างมากนักจากโครงการบ้านเอื้ออาทร ซึ่งมีจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการเป็นเจ้าของบ้าน โดยที่ต้องเป็นผู้ที่มีรายได้ในระดับปานกลาง หรือมีรายได้ครัวเรือนละไม่เกิน 40,000 บาทต่อเดือน

  1. โครงการชุมชนดินแดง

เป็นโครงการที่ใช้เวลาพัฒนาในระยะยาว ซึ่งปัจจุบันมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปจำนวนหนึ่งแล้ว ซึ่งโครงการนี้จะเป็นโครงการที่ช่วยพัฒนาแฟลตดินแดง หรือชุมชนดินแดงโดยเปลี่ยนจากการเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่แออัด กลายเป็นที่อยู่อาศัยที่ลงตัว และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยได้มากขึ้น