ชาวภูเก็ตเฮ! ขยาย ‘รถไฟฟ้ารางเบา’ เชื่อมกะทู้-ป่าตอง

การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย หรือ รฟม.ขอสร้างส่วนต่อขยายรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ตถึงกะทู้ และยาวไปจนถึงป่าตอง จากเดิมนั้นจะสิ้นสุดแค่ห้าแยกฉลอง เพราะเห็นว่าในละแวกเมืองเก่านั้นอาจจะมีคนใช้บริการน้อยและไม่คุ้มทุน โครงการก่อสร้างเส้นทางรถไฟฟ้ารางเบา ภูเก็ต (สนามบิน-ท่าเรือฉลอง) ระยะทาง 42 กิโลเมตร มูลค่ากว่า 3 หมื่นล้านบาท นอกจากช่วยร่นระยะการเดินทางให้สะดวกรวดเร็วแล้ว ยังได้รับอานิสงส์เอื้อทุนทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม ค้าปลีก ให้เกาะไปตามแนวเส้นทางนอกจากทำเลชายทะเล

อย่างไรก็ตาม ชาวจังหวัดภูเก็ตต้องการขยายเส้นทางให้เชื่อมโยงไปยังโซนท่องเที่ยว กะทู้ และได้เสนอสร้างส่วนต่อขยายต่อไปถึงป่าตอง เนื่องจากเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการท่องเที่ยวของภูเก็ต ซึ่งจะช่วยดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยวให้ใช้เส้นทางเพิ่มมากขึ้น ขณะการเชื่อมโยงเส้นทางเข้าตัวเมืองภูเก็ตซึ่งเป็นเมืองเก่ามองว่าอาจจะไม่คุ้มทุน เนื่องจากปริมาณคนน้อย

นางสาวเฉลิมลักษณ์ เก็บทรัพย์ นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง ได้เตรียมเสนอการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ให้ต่อขยายแนวเส้นทางโครงการรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ตที่เดิมไปสิ้นสุดที่ห้าแยกฉลอง ก่อนเข้าเขตตัวเมืองเก่าภูเก็ต เพื่อสร้างส่วนต่อขยายอีกหนึ่งเส้นทางเริ่มจากสถานีบ้านบางคูไปถึงอำเภอกะทู้ ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตรก่อนเข้าสู่อุโมงค์ เส้นทางกะทู้-ป่าตอง แต่ในช่วงแรกนี้หากไม่สามารถใช้แนวเส้นทางในช่วงอุโมงค์ร่วมกับรถยนต์ได้ขอให้แนวเส้นทางสิ้นสุดที่กะทู้ ก่อนที่ในระยะต่อไปจะสร้างส่วนต่อขยายเข้าสู่ป่าตอง

จากเดิมมีการศึกษาแนวเส้นทางให้เชื่อมโยงถึงป่าตองรองรับไว้แล้ว แต่เนื่องจากต้องขึ้นเขานาคเกิด จึงเห็นว่าไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน แต่ล่าสุดรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) มีการปรับแนวเส้นทางไปสิ้นสุดที่ห้าแยกฉลองเพื่อจะเชื่อมไปสู่เขตเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งหากดูความคุ้มค่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาถึงป่าตองมากกว่าจะเข้าเมืองภูเก็ต เทศบาลเมืองป่าตองจึงเสนอให้สร้างส่วนต่อขยายเชื่อมไปยังป่าตองอีกเส้นทางหนึ่งด้วย เพื่อบริการนักท่องเที่ยว

อีกทั้งป่าตองมีแผนพัฒนาทางธุรกิจอีกหลายโครงการ ลงทุนหลักหมื่นล้านบาทโดยเฉพาะศูนย์ประชุมขนาดใหญ่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับป่าตองและประเทศไทยได้อีกมาก ดังนั้นรัฐบาลจึงควรสร้างระบบขนส่งมวลชนที่สามารถขนคนได้จำนวนมากอย่างรถไฟฟ้ามารองรับไว้ตั้งแต่วันนี้ โดยวันที่ 22 กรกฎาคมนี้เทศบาลเมืองป่าตองจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมหารือ ถึงแนวทางการพัฒนารถไฟฟ้ารางเบาเพื่อผลักดันให้เป็นรูปธรรมต่อไป

นายบุญ ยงสกุล อุปนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์จังหวัดภูเก็ต เปิดเผยว่า กรณีที่ภาครัฐเร่งผลักดันโครงการรถไฟฟ้ารางเบาในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังเห็นว่าจะเป็นปัจจัยบวกแม้ว่าจะไม่มากถึง 100% เนื่องจากภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะไปตามชายหาดมากกว่าจะอยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง ดังนั้นผู้ที่เข้าเมืองจึงเป็นคนในท้องถิ่นเป็นหลัก จึงฝากถึงภาครัฐว่าการลงทุนในครั้งนี้ตอบโจทย์ความต้องการได้จริงหรือไม่

ทั้งนี้ตัวอย่าง แนวเส้นทางในกรุงเทพฯ สามารถพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าได้อย่างเต็มที่ แต่ในพื้นที่ภูเก็ตคอนโดมิเนียมจะไปอยู่ตามชายหาดมากกว่าจะเน้นเกาะตามแนวรถไฟฟ้า หากเป็นหมู่บ้านยังมองว่าคนไทยจะอยู่อาศัยเป็นหลัก ดังนั้นจึงจะส่งผลให้ภาพลักษณ์ของภูเก็ตเป็นเมืองที่ได้มาตรฐานยิ่งขึ้น นักท่องเที่ยวใช้บริการรถไฟฟ้ากระจายไปสู่ถนนเทพกระษัตรี เชิงทะเล ป่าตอง และแยกบายพาส ร่นระยะเวลาและอำนวยความสะดวกในการเดินทาง โดยเฉพาะหากการจราจรติดขัดสามารถเลือกเดินทางด้วยรถไฟฟ้าได้อีกด้วย

ประการสำคัญรถไฟฟ้ายังจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งจากในพื้นที่และจากส่วนกลาง ซึ่งการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะร่วมลงทุนกับทุนท้องถิ่นในภูเก็ตจึงมีความเป็นไปได้ทั้งสิ้น แหล่งข่าวในวงการอสังหาริมทรัพย์ของจังหวัดภูเก็ตรายหนึ่งกล่าวว่า หากมองถึงพื้นที่ที่จะได้ประโยชน์ของการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้ารางเบาภูเก็ต โดยเฉพาะจุดตัดและสถานีสำคัญพบว่าจะมีห้างสรรพสินค้าเปิดตัวตามมา หรือจะเกิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยรูปแบบต่าง ๆ ขึ้นได้ ทั้งในเส้นทางพื้นที่ถลางที่จะไปสู่หาดสุรินทร์ หาดกมลา ลากูน่าภูเก็ต หรือจุดบายพาส เกาะแก้ว ที่สามารถแยกไปในเมืองหรือใช้เส้นทางบายพาสไปสู่จุดอื่น ๆได้อีกด้วย ส่วนการคัดเลือกเอกชน ร่วมลงทุนรูปแบบพีพีพี ปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้าความคืบหน้าล่าสุด รถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) อยู่ระหว่างออกแบบและสามารถก่อสร้างได้ในปี 2564

รถไฟฟ้าเส้นนี้นอกจาก ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว แบ่งเบาปัญหาจราจร ลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางตลอดสาย สูงสุดเพียง 130 บาท จากสนามบินภูเก็ต-ท่าเรือฉลองระยะทาง 42 กิโลเมตร เดิมต้องเสียค่าโดยสาร รถสาธารณะ เข้าสนามบินเฉพาะคนไทย ประมาณหัวละ 500 บาท สำหรับชาวต่างชาติ ซึ่งอาจจะเสียแพงกว่า นอกจากนี้แล้วเจ้าของที่ดิน ยังได้อานิสงส์จากการพัฒนารอบสถานี ตามเส้นทางรถไฟฟ้าเพิ่มมูลค่าที่ดินจากปกติ มีราคาสูงอยู่แล้ว