หากพูดถึงการอยู่อาศัยใช้ชีวิตของคนเมือง ปัจจุบันหลายคนหันมาสนใจในการอยู่อาศัยในคอนโดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะด้านโอกาสด้านการลงทุน หรือความสะดวกสบายในเมืองใหญ่ ล้วนส่งผลต่อความนิยมในวิถีชีวิตในแนวดิ่งทั้งสิ้น แต่จะมีปัจจัยอะไรบ้างนั้น เรามาดูกันพร้อมกันเลยค่ะ
เพราะการลงทุนทำเลคือการซื้อเวลา
นับตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายพื้นที่ได้รับการพัฒนาจนเกิดความสะดวกสบายภายในทำเลนั้นๆ แต่ด้วยความเจริญในบางพื้นที่ ทำให้การพัฒนาความเจริญในรูปแบบที่อยู่อาศัยไม่สามารถเติบโตในแนวราบได้นัก ด้วยข้อจำกัดนี้ทำให้เกิดการเติบโตในแนวสูงหรือที่เป็นอาคาร เช่น อพาร์ทเมนต์ หรือคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นด้วยปัจจัยต่างๆดังต่อไปนี้
1. การเดินทางของโอกาสที่ขยับใกล้กว่า ก็ได้เตรียมพร้อมมากกว่า
เวลา ถือว่าเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับทุกคน การบริหารเวลาที่ดีนั้น จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้คุณค่าของเวลา ถูกใช้ออกมาอย่างคุ้มค่ามากที่สุด จึงไม่แปลกที่คนส่วนใหญ่เลือกเข้ามาใกล้ พื้นที่เวลา เพื่อลดระยะเวลาที่ใช้ในการเดินทาง และเข้าใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ที่ตรงใจสำหรับชีวิตประจำวันมากขึ้น
เมื่อปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่ขยับเข้าใกล้ พื้นที่ซื้อเวลาขึ้นมาทุกที ไม่ว่าจะใกล้แหล่งทำงานของตัวเอง หรือใกล้สถาบันการศึกษาของลูกๆ จำนวนการกระจุกตัวของการอยู่อาศัยก็ส่งผลให้เกิดสิ่งอำนวยความสะดวกตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร แหล่งช็อปปิง และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ เป็นต้น เมื่อเกิดสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ จนครบครันต่อความต้องการพื้นฐานแล้ว ความต้องการในการอยู่อาศัยก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น จนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่อยู่อาศัยจากแนวราบไปสู่แนวสูงในที่สุด เพื่อตอบโจทย์ความต้องการในการอยู่อาศัยให้เพียงพอต่อพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด
นอกจากพื้นที่ที่พัฒนาตัวเองจนเติมเต็มศักยภาพที่ครบครันในหลายๆ ด้านแล้ว ทำให้พื้นที่บริเวณย่านใกล้เคียงโดยรอบก็ได้รับอิทธิพลจนเกิดการสร้างคอนโดในย่านใกล้เคียงเหล่านั้นเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ที่อยู่ใกล้กับการขนส่งคมนาคมต่างๆ ที่เดินทางสะดวกสบายอย่าง รถไฟฟ้าบีทีเอส รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ก็จะยิ่งกลายเป็นตัวแปรหลักที่ทำให้พื้นที่นั้นๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาขึ้นได้
2. ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
บางครั้ง การอยู่ใกล้กับการเดินทางที่สะดวกสบาย ก็อาจจะไม่ได้ช่วยให้เวลาถูกใช้เวลาอย่างคุ้มค่ามากนัก เพราะหากแหล่งทำงานหรือสถานศึกษาที่เราต้องเดินทางใช้ชีวิตในทุกๆวันนั้นอยู่ห่างไกลออกไป การเดินทางที่สะดวกสบายก็อาจไม่สอดคล้องกับระยะทางจนทำให้การอยู่อาศัย ณ พื้นที่บริเวณนั้น ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของเราเท่าที่ควร ดังนั้น การย้ายเข้ามาใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสามารถตอบโจทย์และเป็นทางเลือกที่ดีมากกว่า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าอาจดูสะดวกสบาย รวดเร็ว และตอบโจทย์สำหรับชีวิตเมือง ทั้งนี้ รถไฟฟ้าในประเทศไทยมีทั้งหมด 5 สาย รวมระยะทางเพียงแค่ 110.8 กิโลเมตร ดูเหมือนจะยังไม่ครอบคลุมพื้นที่ทั่วเมือง ดังนั้น รถไฟฟ้า ถือว่าไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ส่งผลกระทบต่อการเกิดคอนโด
ในบางพื้นที่อย่างคลองสาน พระราม 3 หรือลาดกระบัง ก็อุดมสมบูรณ์ด้วยตัวของมันเอง จนทำให้ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาใช้ชีวิตในพื้นที่บริเวณดังกล่าวโดยไม่มีรถไฟฟ้า
3. ดูแลง่ายไม่ว่าจะเป็นห้องคอนโดและตัวเรา
นอกจากเรื่องทำเลที่คอนโดค่อนข้างได้เปรียบ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนเมืองแล้ว ด้านความปลอดภัยก็ย่อมมีระบบที่รัดกุมมากกว่าเช่นกัน ทำให้เราหมดห่วงว่าจะมีคนแปลกหน้ารุกล้ำเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัว
อีกทั้งการใช้ชีวิตแนวดิ่งแบบนี้ ยังดูแลรักษาง่ายกว่า หรือไม่จำเป็นต้องดูแลพื้นที่รอบนอกอย่างบ้าน ก็จะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มโอกาสในการใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังไม่ต้องจัดการปัญหากวนใจหลายอย่าง เช่น ระบบท่อไฟฟ้า ท่อน้ำ ประปาด้วยตัวเองอีกด้วย เพราะคอนโดส่วนใหญ่มักมีนิติบุคคลคอยจัดการให้แล้ว
4. คอนโดซื้อง่าย และปล่อยขายคล่องกว่า
ปัจจุบัน การเป็นเจ้าของคอนโดไม่ใช่เรื่องยากต่อไปแล้ว เพราะผู้พัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมส่วนใหญ่มักคิดโปรโมชั่นขึ้นมาแข่งขันกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะกลุ่ม Segment ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอย่างกลุ่มคอนโดราคา 1.5 ล้าน ถึง 3 ล้านบาทต่อยูนิต ที่มีสัดส่วนมากกว่า 70% ของห้องชุดในตลาด
นอกจากนี้จะสะดวกขึ้น เมื่อแต่ละโครงการเริ่มจับมือกับธนาคารหลายเจ้า เข้ามาให้คำปรึกษาทางด้านการเงิน อย่างเรื่องการขอสินเชื่อกู้ยืม การวางเงินดาวน์ เอกสารที่สำคัญ พร้อมให้คำแนะนำที่เหมาะสมถึงที่ จนใครๆสามารถมีคอนโดอยู่ในมือได้ง่ายๆ
คอนโดคือความได้เปรียบของนักลงทุนอย่างหนึ่ง ที่แม้จะอายุน้อยแต่กลับมีมูลค่ามากมาย ดังนั้น เมื่อจับมาลงทุนจึงได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าทั้งในระยะสั้นอย่างการซื้อเพื่อเก็งกำไร หรือระยะยาวอย่างการปล่อยเช่าซึ่งก็เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากคนที่ขยับเข้าพักอาศับในเมืองส่วนใหญ่มักต้องการความปลอดภัยและความสะดวกสบายเป็นสำคัญ จึงเรียกให้นักลงทุนน้อยใหญ่เข้ามาสนใจตลาดนี้มากขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนกับชาวต่างชาติที่กฎหมายอนุญาตให้ชาวต่างชาติสามารถเป็นเจ้าของห้องชุดได้ในร้อยละ 49 ของยูนิตทั้งหมด และเมื่อบวกลบคูณหารกับข่าวความคืบหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ หรือ EEC ด้วยแล้ว ก็ยิ่งกระตุ้นให้นักลงทุนชาวต่างชาติสนใจเข้ามาจับจองที่พักแนวสูงมากขึ้น เช่นกัน
