สำหรับวงการอสังหาริมทรัพย์บ้านเราในปัจจุบันนั้น เรามักจะได้ยินอยู่เสมอ ๆ ว่าราคาอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน หรือคอนโด ก็มักจะมีราคาที่สูงลิบลิ่ว และมีแต่สูงขึ้นทุกวัน คงไม่มีวันที่จะมีราคาต่ำไปกว่านี้อย่างแน่นอน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เชื่อหรือไม่คะว่าราคาบ้านเดี่ยว คอนโด และที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ รวมไปถึงที่ดินนั้น ก็มีราคาผันผวนขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน อาจจะมีสูงบ้าง ต่ำบ้างเป็นบางครั้งคราวมีความผันผวนไม่ได้แตกต่างไปจากสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอื่น ๆ เลย สำหรับวันนี้ FazWaz จะนำความรู้ในส่วนนี้เกี่ยวกับปัจจัยต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการปรับราคาของอสังหาริมทรัพย์ บ้าน และที่ดิน ที่เกิดขึ้นได้เสมอ มาให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจกัน จะมีปัจจัยอะไรกันบ้างนั้น เราไปติดตามกันดีกว่าค่ะ

ราคาบ้านจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

1.ทำเลที่ตั้ง (Location) สำหรับในส่วนของทำเลที่ตั้งของบ้านนั้น เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะเมื่อเราเลือกซื้อบ้านแล้ว ก็จะต้องอยู่อาศัยกันไปอีกนานหรือชั่วชีวิตเลยทีเดียว ถ้าเลือกทำเลดีใกล้แหล่งอำนวยความสะดวก และเป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่มีอยู่ครบครัน เช่น ห้างสรรพสินค้า ที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร สวนสาธารณะ โรงพยาบาล โรงเรียน และมหาวิทยาลัย เป็นต้น หรือมีการเดินทางที่สะดวกสบาย อยู่ใกล้รถไฟฟ้า BTS หรือ MRT แล้วล่ะก็ จะยิ่งทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างแน่นอน สิ่งสำคัญไม่ว่าจะเลือกทำเลไหน ก็ต้องคิดพิจารณาจากผู้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักจะดีกว่านะคะ

2.ศักยภาพของทำเลในอนาคต เมื่อเราจะซื้อบ้านและเลือกทำเลของบ้าน สิ่งที่ต้องมองไปไกล ๆ นั่นก็คือ ทำเลที่เราเลือกในอนาคตนั้นจะมีศักยภาพในด้านใดได้บ้าง จะมีการพัฒนาไปในทิศทางไหนได้บ้าง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องจำเป็นที่เราจะต้องศึกษาแนวทาง ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตของทำเลที่เราเลือก อย่างเช่น ถ้าเราเลือกทำเลในเมือง เราก็จะมีความสะดวกสบาย ในการใช้ชีวิตและการเดินทาง แต่เราจะต้องแลกกับราคาบ้านที่แพงแสนแพง และค่าครองชีพที่ค่อนข้างสูงมากกว่านอกเมืองเป็นต้น แต่สำหรับใครที่เลือกซื้อบ้านแถบทำเลนอกเมือง ก็จะต้องมานั่งลุ้นกันว่าจะมีการพัฒนาอะไรต่อไปในอนาคตบ้าง ถ้าโชคดีทำเลนั้น ๆ มีสภาพแวดล้อมที่ดี ก็จะกลายเป็นแหล่งรวมที่อยู่อาศัยกับโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตก็เป็นได้

ราคาบ้านจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

3.อัตราเงินเฟ้อ สำหรับภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ประชาชนมีความต้องการที่จะซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นแต่ในตลาดมีไม่เพียงพอ ทำให้กลุ่มผู้ขายปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้น หรือถ้าพิจารณาจากค่าของเงิน เงินเฟ้อ คือ ภาวะที่ค่าเงินลดลง หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ภาวะที่ของแพงขึ้นนั่นเองค่ะ เราจะเห็นได้ว่าสภาพเศรษฐกิจ นโยบายต่าง ๆ ของรัฐและอัตราเงินเฟ้อ จะส่งผลโดยตรงต่อต้นทุนในการสร้างบ้านและที่อยู่อาศัย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อจะสูงขึ้นในทุกปี ค่าวัสดุ ค่าแรงงาน ราคาที่ดินก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงส่งผลให้ผู้ขายปรับราคาขายและก็จะมีบางโครงการที่อาจจะเลือกลดคุณภาพของบ้าน หรือลดบริการ อื่น ๆ ออกไป เพื่อที่จะรักษาราคาบ้านไว้ และเราจะต้องเลือกและคิดทบทวนทำการบ้านอย่างถี่ถ้วนสำหรับเรื่องนี้

4.อุปสงค์และอุปทาน ก่อนอื่นเราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับ คำสองคำนี้กันก่อนค่ะ อุปสงค์ (demand) หมายถึง ความต้องการหรือความสามารถในการซื้อสินค้าและบริการ และสำหรับอุปทาน (supply) หมายถึง สินค้าหรือบริการที่พร้อมจะขายเพื่อตอบสนองความต้องการซื้อของผู้บริโภค

ถ้าเราเกิดตัดสินใจซื้อบ้านช่วงที่มีการสร้างบ้านออกมามากเกินไปจนล้นตลาด ทำให้เกินความต้องการของผู้บริโภค ก็จะทำให้บ้านขายได้ยากขึ้น เจ้าของโครงการจึงต้องงัดกลยุทธ์จัดแคมเปญและโปรโมชันต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ อย่างเช่น ฟรีค่าโอน แจกของสมนาคุณ และอาจรวมถึงการลดราคาบ้านอีกด้วย แต่ตรงกันข้ามถ้าเราซื้อบ้านในช่วงที่ทำเลทองนั้น ๆ มียูนิตพร้อมขายไม่มากนัก ก็จะทำให้มีการแข่งขันแก่งแย่งกันซื้อสูง รับรองได้เลยว่าเราจะได้บ้านที่มีราคาแพงอย่างแน่นอนค่ะ

5.ปัจจัยอื่น ๆ สำหรับปัจจัยอื่น ๆ ที่จะกล่าวต่อไปก็จะอยู่เหนือการควบคุมของเรา ที่อาจจะมาแบบไม่รู้ตัวและทำให้เราซื้อบ้านที่มีราคาถูกก็เป็นได้ค่ะ อย่างเช่น

– การออกมาตรการของรัฐ เพื่อช่วยส่งเสริมและกระตุ้นธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยการช่วยเรื่องค่าโอน ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หรือออกค่าเงินดาวน์ให้ เป็นต้น เราจึงต้องติดตามข่าวสารอยู่เสมอ

– โปรโมชันของโครงการ จะเป็นการจัดโปรโมชันเพื่อส่งเสริมการขายต่าง ๆ มักจะมาในช่วงที่บ้านขายไม่ได้ จำนวนคนซื้อน้อย หรือเศรษฐกิจไม่ดี หากเราคว้าโปรโมชัน ดี ๆ เหล่านี้ไว้ได้ ก็จะทำให้เราประหยัดเงินไปได้เยอะเลยทีเดียว

มาถึงตอนนี้แอดมินก็เชื่อว่าหลายคนก็รู้กันแล้วว่า มีอะไรบ้างที่เป็นปัจจัยทำให้ราคาบ้าน และที่ดิน ขึ้น ๆ ลง ๆ แต่อีกเหตุผลที่คนส่วนใหญ่มักที่จะซื้อบ้านโดยไม่ได้คำนึงถึงทำเล และราคา แต่จะให้ความสนใจไปที่ แบบบ้าน แบรนด์บ้านที่น่าเชื่อถือ จึงทำให้เรารู้ว่าราคาบ้าน ไม่ใช่ทุกอย่างในการเลือกซื้อบ้านของคุณเสมอไป สุดท้ายเมื่อมีบ้านเป็นของตัวเองแล้ว ก็อย่าลืมที่จะตกแต่งบ้านของเราให้อินเทรนด์กับปีหนูทองปีนี้ด้วยนะคะ สามารถติดตามอ่านบทความเกี่ยวกับการตกแต่งบ้าน ปี 2563 ได้ที่นี่ค่ะ