ปัจจุบันผู้คนต่างอาศัยอยู่ในคอนโดเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองอย่างกรุงเทพมหานคร เนื่องจากคอนโดมักจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือใกล้บริการสาธารณะทำให้เกิดความสะดวกสบายในการเดินทาง นอกจากนี้ยังมีบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในบริเวณใกล้เคียงรอบๆคอนโดอีกด้วย จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้คนสนใจอยู่ในคอนโดกันมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม หลายคนยังมีความรู้สึกว่าอยู่คอนโดย่อมไม่เหมือนอยู่บ้าน ดังนั้น ผู้ออกแบบคอนโดจึงออกแบบห้องพักให้มีความรู้สึกคล้ายเหมือนกับอยู่บ้านกันมากขึ้น และวันนี้ทางเว็บไซต์ FazWaz มีบทความนำเสนอเกี่ยวกับสไตล์ของคอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้านว่ามีประเภทไหนบ้าง เรามาดูกันพร้อมๆกันเลยค่ะ

อยู่คอนโดอย่างไรให้เหมือนอยู่บ้าน

Duplex

Duplex คือห้องที่มี 2 ชั้นภายในยูนิตเดียว โดยห้องประเภทนี้มีทั้งแบบ Double Space และแบบเต็มชั้น ซึ่งจะมีพื้นที่ใช้สอยมาก โดยวัดพื้นที่จากพื้นถึงเพดานมีความสูงประมาณ 2.40 เมตรขึ้นไป จงทำให้ห้องมีขนาดกว้างขวาง นอกจากนี้ พื้นที่ชั้น 2 นับเป็นพื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจึงทำให้ห้องประเภทนี้มีราคาสูงตามไปด้วยนั้นเอง

ข้อดีของห้อง Duplex

  • มีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
  • เพดานสูง ทำให้ดูโล่งโปร่ง
  • บันไดกว้าง มีชานพักและได้มาตราฐาน
  • มีการกั้นห้องอย่างเป็นสัดส่วน
  • มีระบบความปลอดภัยสูง เนื่องจากมีประตูทางออกในกรณีที่เกิดไฟไหม้ทั้ง 2 ชั้น

ข้อเสียของห้อง Duplex

  • ราคาสูงเนื่องจากมีพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง
  • เนื่องจากชั้น 2 ก็นับว่าเป็นพื้นที่ใช้สอยตามโฉนดจึงนำมาคิดตอนจ่ายค่าส่วนกลางด้วย
  • ห้องที่มี Double Space ทำให้เปลืองค่าไฟ ค่าแอร์ หากไม่มีกั้นห้องที่ดี
  • สืบเนื่องด้วยบันไดกว้าง จึงทำให้กินพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง
อยู่คอนโดอย่างไรให้เหมือนอยู่บ้าน

Loft

ห้อง Loft หากเราดูเผินๆก็จะคล้ายกับห้อง Duplex เนื่องจากมีการกั้นห้องเป็น 2 ชั้นเหมือน Duplex หรือมีชั้นลอยภายในห้อง อย่างไรก็ตามสิ่งที่แตกต่างกันคือ ห้อง Loft มีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานน้อยกว่า 2.40 เมตร จะน้อยกว่าห้อง Duplex ทำให้ชั้น 2 ดูไม่โล่งโปร่ง และบันไดของห้อง Loft จะแคบและไม่มีชานพัก เนื่องจากพื้นที่ชั้น 2 ของห้อง Loft ตามกฎหมายนับว่าเป็นเพียงพื้นที่ตกแต่งเท่านั้น จึงไม่นับเป็นพื้นที่ใช้สอยในโฉนดและไม่มีประตูหนีไฟ

ข้อดีของห้อง Loft

  • มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
  • ฝ้าเพดานสูงพอประมาณ ทำให้ห้องดูโล่ง
  • ราคาไม่สูงมากนัก
  • ไม่ต้องเสียค่าส่วนกลาง ในส่วนของชั้น 2

ข้อเสียของห้อง Loft

  • ชั้น 2 มีพื้นที่เพดานเตี้ยกว่าชั้นล่าง ทำให้ห้องดูแคบเล็กน้อย
  • เปลืองค่าไฟ ค่าแอร์ เนื่องจากมี Double Space
  • บันไดแคบ ไม่มีชานพัก
  • ไม่มีประตูหนีไฟบริเวณชั้น 2
อยู่คอนโดอย่างไรให้เหมือนอยู่บ้าน

Penthouse

เกือบทุกโครงการคอนโดมิเนียมจะมีห้องประเภทเพนท์เฮ้าส์ โดยที่ห้องเพนท์เฮ้าส์จะแตกต่างไปจากห้องอื่นๆตรงที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะกว่าและใหญ่กว่ามากอีกด้วย โดยกินเนื้อที่ทั้งชั้นของคอนโดและการตกแต่งภายในห้องก็ได้รับการออกแบบให้คล้ายแบบบ้านเดี่ยว จึงทำให้ห้องประเภทนี้มีราคาสูงมาก อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับราคาบ้านเดี่ยวใจกลางเมืองแล้ว การอาศัยอยู่ในเพนท์เฮ้าส์ใจกลางเมืองจะมีราคาถูกกว่าและมีหลากหลายสไตล์ให้เลือกมากกว่าบ้านเดี่ยว โดยมีทั้งแบบเพนท์เฮ้าส์ธรรมดาจนถึงระดับ Luxury กันเลย

ข้อดีของห้อง Penthouse

  • มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง
  • มีความเป็นส่วนตัวสูง
  • มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วน คล้ายบ้านเดี่ยว
  • มีให้เลือกหลายระดับราคา

ข้อเสียของห้อง Penthouse

  • ราคาแพงมาก
  • การจับจองทำได้ยาก เนื่องจากทั้งชั้นของคอนโดมีเพียงแค่ยูนิตเดียว
อยู่คอนโดอย่างไรให้เหมือนอยู่บ้าน

Combine

ห้อง Combine เป็นการรวมห้องกรณีที่ซื้อ  ยูนิตติดกัน แล้วรวมเป็นห้องเดียวกัน หรือสามารถรวมจากห้องนอนเล็ก 2 ห้องให้เป็นห้องนอนใหญ่เพียงห้องเดียว เป็นต้น ทั้งนี้ การรวมห้องนั้นจะต้องผ่านการอนุมัติจากทางคอนโดมิเนียมก่อนว่าสามารถรื้อกำแพงหรือโครงสร้างได้หรือไม่โดยไม่ส่งผลกระทบกับโครงหลักของโครงการ

ข้อดีของห้อง Combine

  • สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยให้มากขึ้น
  • สามารถออกแบบพื้นที่ในห้องเองได้

ข้อเสียของห้อง Combine

  • มีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้าง และเรื่องสัญญาประกันกับทางคอนโด
  • ต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้ดีว่าการรวมห้องนั้นประหยัดกว่าการซื้อห้องใหญ่เลยหรือไม่

เป็นยังไงกันบ้างคะกับห้องทั้ง 4 แบบที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่บ้านเดี่ยว ซึ่งทั้ง 4 ห้องนี้ล้วนได้รับการออกเพื่อตอบโจทย์สำหรับครอบครัวใหญ่ ด้วยเนื้อที่ของห้องกว้างขวางจึงทำให้สามารถอยู่กันแบบครอบครัวใหญ่ได้อย่างไม่แออัด ซึ่งเรียกได้ว่าสามารถตอบโจทย์ของทุกคนในครอบครัวได้ดีไม่แพ้บ้านเดี่ยวเลยทีเดียว