ด้วยความเจริญของเทคโนโลยีในปัจจุบันที่เข้ามาช่วยในการส่งเสริมการใช้ชีวิตของชาวเมืองและพัฒนาเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานครมีชื่อเสียงขยายไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้ผู้คนทั้งในและต่างประเทศต่างหลั่งไหลเข้ามาในกรุงเทพมหานครเพื่อท่องเที่ยวหรือหางานทำ ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีผู้คนอยู่อาศัยจำนวนมากมายหลักสิบล้านคนและมีอัตราประชากรที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆอย่างไม่หยุดยั้ง เช่นเดียวกับย่านธุรกิจ ย่านการค้าที่มีนักลงทุนชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนไม่เว้นในแต่ละวัน บริษัทและศูนย์การค้าต่างๆก่อกำเนิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นย่านสีลม เพลินจิต ทองหล่อ สุขุมวิท ต่างเป็นที่หมายปองของชาวต่างชาติกันทั้งนั้น ส่งผลให้กรุงเทพมหานครมีมูลค่าสูงขึ้นมาก ตารางวาละหลักล้านเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น ทำให้พื้นที่ในกรุงเทพมหานครเริ่มจำกัดน้อยลงหากเทียบในอดีต คงจะดีกว่าหากใช้พื้นที่ที่จำกัดเหล่านี้ให้เป็นโครงการ Mixed-use
บทความนี้ FazWaz จะนำทุกคนไปรู้จักว่าโครงการ Mixed-use คืออะไรและมีประโยชน์อย่างไรต่อผู้ประกอบการและตัวผู้บริโภค
โครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use คืออะไร?
โครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use คือโครงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่เป็นอาคารชุดและอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรม เช่น อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า วิลล่า และโรงแรมที่อยู่ในโครงการเดียวกันเพราะการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบ Single-use หรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยหรืออสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชยกรรมแต่อย่างเดียวนั้น ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินได้อย่างคุ้มค่าและเต็มศักยภาพได้
เมื่อผู้ประกอบการหรือนักลงทุนสามารถใช้ประโยชน์จากพื้นที่ใช้สอยได้อย่างสูงสุดแล้ว ทำให้ผู้บริโภคอย่างเรามีผลพลอยได้ คือ ไม่จำเป็นต้องไปทำธุระหลายที่อีกต่อไป เพราะทุกอย่างมีครบอยู่ที่โครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use ที่เดียว
โครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use มีแต่ข้อดีจริงเหรอ?
ปัจจุบัน พบว่ามีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ๆ มีแผนที่จะเปิดโครงการเช่นนี้อย่างมากมาย เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use มีมูลค่ามากมายกว่า 10,000 ล้านบาท และโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวมีมากกว่า 10 โครงการด้วยกัน และสิ่งที่คนไทยต้องรู้คือ สถานการณ์การก่อสร้างและผลกระทบของโครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use ว่าอย่างไร
อันดับแรก ผลกระทบที่เกิดจากตัวผู้ประกอบการที่ให้เช่าอาคารสำนักงาน เนื่องจากโครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use ทำให้ในบริเวณที่มีโครงการ Mixed-use ทำให้เกิดการแข่งขันสูงมาก มีการเพิ่มของโครงการที่มากขึ้นและผู้ประกอบการปรับขึ้นค่าเช่าพื้นที่ได้ยาก หากค่าเช่าระหว่างอาคารสำนักงานเก่าและใหม่แตกต่างกันไม่มาก ย่อมส่งผลให้เกิดการย้ายไปอยู่ในโครงการที่เปิดใหม่ที่ทำเลที่ดีกว่า
ถัดมาคือ เป็นเรื่องของการแข่งขันของโครงการเอง เนื่องจากมีห้างสรรพสินค้ามากมายอยู่ในบริเวณเดียวกัน จนเกินความต้องการของคนในพื้นที่ อาจทำให้มีลูกค้าใช้บริการน้อยและส่งผลต่อระยะยาวได้
อีกเรื่องคือ เป็นเรื่องของผลกระทบต่อตลาดทุน พบว่าเมื่อโครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use สร้างแล้วเสร็จ ผู้ประกอบการมักจะนำโครงการมาขายให้กับนักลงทุนรายย่อยผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ มีแนวโน้มทำให้ผู้ประกอบการมีพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้นที่สูงมากเกินไปและประเมินความเสี่ยงที่ต่ำเกินไป นำไปสู่การเปิดโครงการที่ไม่สอดคล้องกับอุปสงค์ ส่งผลให้เกิดปัญหาอุปทานส่วนเกินในตลาด
คาดว่าในอนาคตข้างหน้าอีก 5 ปี โครงการอสังหาริมทรัพย์ Mixed-use จะถูกสร้างขึ้นอีกมากมาย จนอาจจะเกิดการแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่และรายย่อยก็ตาม ส่วนผลกระทบต่อผู้บริโภคนั้น ยังไม่ส่งผลกระทบมากเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์เรื่อยๆเพราะโครงการที่มีการลงทุนมหาศาล ส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศอย่างแน่นอน
