Sinking Fund คืออะไร ทำไมต้องจ่าย?
ทุกวันนี้อสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับความนิยมในการเลือกซื้อไว้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยและการลงทุนนั้น ก็คงจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะเป็น คอนโด มากกว่าบ้านเพราะคอนโดนั้นสามารถที่จะตอบโจทย์ผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี แต่เราเคยรู้หรือไม่ค่ะว่า เวลาเราซื้อคอนโดนั้นจะมีค่าใช้จ่ายหลักๆ ที่เราต้องจ่าย 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ
- ค่าธรรมเนียมและภาษีต่าง ๆ
- ค่าส่วนกลางรายปี (Annual Common Fees)
- เงินกองทุนคอนโด (Sinking Fund)
และคิดว่าหลายคนเวลาซื้อคอนโด ก็มักจะแอบงงไม่น้อยใช่ไหมค่ะ ว่าโดนเก็บค่าส่วนกลางไปแล้ว แต่ทำไมเราต้องจ่ายเงินกองทุนคอนโดด้วย หรืออาจจะสงสัยว่าเงินกองทุนคอนโดเก็บไปทำอะไร จะเก็บนานแค่ไหน ประเด็นสุดท้ายคือเราจะได้ประโยชน์จากเงินกองทุนคอนโดก้อนนี้อย่างไรบ้าง วันนี้จะได้หายงงและหายสงสัยกันนะคะ BaanThai จะนำความรู้และคำตอบเหล่านั้นมาให้ได้รับทราบกัน เราไปติดตามกันได้เลยค่ะ
เงินกองทุนคอนโดคืออะไร?
เงินกองทุนคอนโด (Singking Fund) คือ เงินทุนสำรองที่เจ้าของคอนโดร่วมจ่ายให้นิติบุคคลคอนโดเก็บไว้ใช้กรณีฉุกเฉิน หรือใช้สำหรับเรื่องจำเป็นเร่งด่วนของแต่ละคอนโด วัตถุประสงค์หลักของเงินกองทุนในทุกคอนโดที่ระบุในข้อบังคับนั้นจะมีไว้เพื่อซ่อมแซมส่วนกลาง โดยเฉพาะการบำรุงรักษาที่มีค่าใช้จ่ายสูงหรือเร่งด่วน เงินก้อนนี้ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องใช้ นิติบุคคลคอนโดก็มักจะเอาไปฝากธนาคาร ภาษาอังกฤษจึงเรียกว่า “Sinking”
คอนโดเรียกเก็บกันประมาณเท่าไหร่?
เจ้าของคอนโดแต่ละยูนิตจะต้องชำระเงินกองทุนคอนโดแค่ครั้งเดียวในวันโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด (แต่อาจมีการเรียกเก็บก้อนใหม่ได้ถ้าก้อนเดิมมีการนำไปใช้) จำนวนที่เก็บจะแล้วแต่ว่าเจ้าของโครงการ (Developer) จะเป็นคนกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะแตกต่างกันแล้วแต่หลักเกณฑ์ หรือดุลพินิจของเจ้าของโครงการ เช่น ถ้าคอนโดมีส่วนกลางที่ต้องใช้เงินในการบำรุงรักษาเยอะ ทางเจ้าของโครงการก็อาจเรียกเก็บสูงๆ ไว้ก่อน โดยจำนวนที่เรียกเก็บจะคำนวณเป็นบาทต่อตารางเมตรของพื้นที่ห้อง
เงินกองทุนเอาไปใช้อะไรได้บ้าง?
ตาม พรบ. อาคารชุด กำหนดกว้างๆ ว่าให้เจ้าของร่วมชำระเงินทุนเมื่อเริ่มต้นกระทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งตามข้อบังคับหรือตามมติของที่ประชุมใหญ่ ดังนั้น การจะใช้เงินกองทุนจึงขึ้นอยู่กับข้อบังคับและมติที่ประชุมใหญ่ ในทางปฏิบัติเงินกองทุนจะเอาไปใช้ได้ในกรณีตัวอย่าง เช่น ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ลิฟต์โดยสาร การทาสีใหม่ทั้งอาคาร การใช้แก้ปัญหา หรือซ่อมแซมกรณีฉุกเฉิน เช่น เกิดไฟไหม้หรือน้ำท่วมในพื้นที่ส่วนกลาง เช่น บำรุงรักษาหรือทำความสะอาดระบบท่อน้ำดี หรือน้ำเสียใหม่หมดทั้งอาคาร
เงินกองทุนหมดเรียกเก็บเพิ่มได้ไหม?
ตามกฎหมายไม่ได้ระบุเรื่องนี้ไว้ และก็ไม่ได้มีข้อห้ามว่าห้ามเก็บเพิ่มแต่อย่างใด ดังนั้น หากมีการนำเงินกองทุนไปใช้ และเหลือน้อยลง ทางนิติบุคคลก็น่าจะเก็บเพิ่มให้กลับมาเต็มเหมือนเดิมได้ ขึ้นอยู่กับข้อบังคับอาคารชุด หรือมติที่ประชุมเจ้าของคอนโดจะกำหนด หรือมีมติ ซึ่งก็จะสามารถเรียกให้ชำระเงินกองทุนแบบทั้งจำนวนครั้งเดียว หรือผ่อนจ่ายรายปีก็ได้ เพื่อแบ่งเบาภาระเจ้าของคอนโด อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่มีความจำเป็นจริง ๆ เราไม่ค่อยแนะนำให้นำเงินกองทุนมาใช้นะครับ อยากให้เป็นเรื่องด่วนฉุกเฉินจริง ๆ เท่านั้น เหตุผลคือ ถ้านำมาใช้และเงินพร่องไปแล้ว การจะเก็บเพิ่มจากเจ้าของคอนโดได้ครบทุกคนเป็นเรื่องยากมาก เพราะแม้ค่าส่วนกลางที่จำนวนต่ำกว่ามาก ยังมีเจ้าของคอนโดบางรายเห็นแก่ตัวไม่ยอมจ่าย ในขณะที่เงินกองทุนนั้นมีจำนวนสูงกว่ามาก (เฉลี่ย 10 เท่าของค่าส่วนกลาง) ดังนั้น จึงเป็นเรื่องยากกว่าเดิม ที่จะเก็บเงินกองทุนจากเจ้าของคอนโดได้ครบทุกคน หากจำเป็นต้องใช้เงินกองทุนจริง ๆ และไม่อยากใช้เงินเดิมที่มี ทางนิติบุคคลอาจใช้วิธีเก็บเพิ่มเติมเป็นเงินกองทุนพิเศษก็จะดีกว่าค่ะ
เงินกองทุนถ้าไม่ได้ใช้จะเก็บไว้ที่ไหน?
โดยปกติแล้ว เงินกองทุนแต่ละคอนโดจะมีจำนวนเป็นหลักล้านบาท หลายๆ โครงการก็เกิน 10 ล้านบาท ดังนั้น ถ้าจะปล่อยเงินจำนวนขนาดนี้ไว้ในบัญชีกระแสรายวันเฉยๆ ก็จะทำให้คอนโดเสียประโยชน์เปล่าๆ ในทางปฏิบัติ หลายๆ โครงการก็เอาเงินกองทุนที่ยังไม่ได้ใช้ไปฝากธนาคาร ไม่ว่าจะเป็นบัญชีเงินฝากประจำ ออมทรัพย์ หรือซื้อกองทุน หรือพันธบัตรที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น กลุ่มกองทุนที่เป็น Money Market Fund หรือ Fixed Income Fund เป็นต้น เพราะอย่างน้อยก็จะได้ผลประโยชน์กลับมาบ้างค่ะ
อย่างไรก็ตาม การมี “เงินกองทุน” คอนโดอาจมีวัตถุประสงค์บางอย่างซ้ำซ้อนกับ “เงินค่าส่วนกลาง” เหมือนกัน แต่เงินกองทุนคอนโดมีประโยชน์แน่นอน (และเจ้าของคอนโดทุกคนควรจ่าย) เพราะจะเป็นเงินสำรองที่ดีและมีประโยชน์สำหรับตัวโครงการที่ลูกบ้านอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเฝ้าดูการบริหารจัดการเงินส่วนนี้เป็นระยะ เพื่อให้เงินกองทุนเป็นประโยชน์ต่อส่วนกลางและลูกบ้านมากที่สุดครับ
