ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ภาษีที่ดิน” เป็นภาษีที่จัดเก็บเป็นรายปีตามมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง อาทิ บ้าน, คอนโด และอาคาร ที่ครอบครอง โดยจะมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ได้แก่ เทศบาล, องค์การบริหารส่วนตำบล และสำนักงานเขต จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบการจัดเก็บค่าภาษี เป็นต้น โดยภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2562 และจะเริ่มเก็บภาษีตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป โดยอัตราภาษีจะคำนวณตามประเภทการใช้ประโยชน์ ตั้งแต่ปีละ 0.01% ไปจนถึงปีละ 3% ของข้อมูลที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งการชำระภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในเดือนเมษายน ของปีนั้น ๆ

อย่างไรก็ตามวันนี้ทาง Fazwaz.com ได้รวบรวมข้อมูลสรุปอัตราการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 มาให้อ่านกันค่ะว่าใครบ้างที่ต้องจ่าย และต้องจ่ายเท่าไหร่ ไปอ่านกันเลยค่ะ

อย่างที่ทราบกันดีว่าอัตราการเก็บภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง จะแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ตามลักษณะการใช้ประโยชน์ ได้แก่ เกษตรกรรม, ที่พักอาศัย, อื่น ๆ (พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม) และที่ดินรกร้างว่างเปล่า โดยผู้ครอบครองทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของที่ดิน, เจ้าของสิ่งปลูกสร้าง และเจ้าของห้องชุด เป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามกฎหมาย ซึ่งจะคิดอัตราภาษีเป็นรูปแบบขั้นบันไดเพิ่มขึ้นตามมูลค่าราคาประเมิน ดังต่อไปนี้

1. ที่ดินเกษตรกรรม เพดานภาษีสูงสุด 0.1
การทำเกษตรจะต้องเข้าเงื่อนไขตามประกาศฯ หลักเกณฑ์การใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งกำหนดประเภทการปลูกต้นไม้ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดด้วย เช่น ปลูกกล้วยต้องไม่ต่ำกว่า 200 ต้นต่อไร่ ดังนั้นถ้าปลูกน้อยกว่าที่กำหนดไว้จะไม่ถือว่าเป็นที่ดินเพื่อการเกษตร ซึ่งอัตราการเสียภาษีที่ดินเกษตรกรรมในปี 2565 มีหลักพิจารณา ดังนี้

1.1 เจ้าของที่ดินเป็นบุคคลธรรมดา : ในปี 2565 ไม่ต้องเสียภาษีที่ดิน เนื่องจากกฎหมายยกเว้นให้ในปี พ.ศ. 2563-2565 ส่วนปี พ.ศ. 2566 เป็นต้นไป จะได้รับยกเว้น 50 ล้านบาทแรก ซึ่งเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เท่ากับว่าหากเรา (บุคคลธรรมดา) มีที่ดินทำการเกษตรที่มีมูลค่าไม่เกิน 50 ล้านบาท ก็จะได้รับการยกเว้นไปโดยปริยาย ไม่ต้องเสียภาษีเลยสักปี

1.2 เจ้าของที่ดินเป็นนิติบุคคล : ในปี 2565 เสียภาษีที่ดินตามอัตราปกติ คือ
2. ที่พักอาศัย เพดานภาษีสูงสุด 0.3%
“ที่พักอาศัย” ตามกฎหมายฉบับนี้หมายถึงที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของใช้อยู่อาศัยเอง ให้ญาติพี่น้องอยู่อาศัย หรือให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย โดยครอบคลุมถึงช่วงเวลาระหว่างการก่อสร้าง หรือปรับปรุงต่อเติมสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินที่ใช้เพื่อการอยู่อาศัยด้วย เช่น บ้านที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง หรือคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการตกแต่ง เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงบ้านเช่า หอพัก อพาร์ตเมนต์ หรือคอนโดที่ปล่อยเช่ารายเดือน (แต่ถ้าเป็นบ้านหรือห้องพักให้เช่าเป็นรายวัน จะจัดอยู่ในหมวดใช้ประโยชน์เพื่อการอื่น ๆ ซึ่งเสียภาษีแพงกว่า) เป็นต้น

ทั้งนี้อัตราการเสียภาษีที่อยู่อาศัยจะแบ่งเป็น 3 กรณี คือ

2.1 บ้านหลังหลัก (บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน)
บ้านหลังหลัก คือ เป็นเจ้าของทั้งที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พร้อมกับมีชื่อในทะเบียนบ้าน ถ้าสิ่งปลูกสร้างนี้มีราคาไม่ถึง 50 ล้านบาท จะได้รับการยกเว้นภาษี 2565 แต่ส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท ให้เสียภาษีตามอัตราปกติ ดังนี้
2.2 บ้านหลังหลัก (บุคคลธรรมดาเป็นเจ้าของเฉพาะสิ่งปลูกสร้าง และมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน)
โดยบ้านหลังหลัก และยังมีชื่อในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคม 2565 แต่เราเป็นเจ้าของเฉพาะตัวสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าของที่ดิน เช่น คนที่สร้างบ้านอยู่บนที่ดินเช่า ในปี 2565 จะได้รับการยกเว้นภาษี 10 ล้านบาทแรก ส่วนที่เกินจะต้องเสียภาษีที่ดิน ดังนี้
2.3 บ้านหลังที่ 2 ขึ้นไป หรือบ้านที่ไม่มีชื่อเราอยู่ในทะเบียนบ้าน
สำหรับคนที่มีบ้านหลายหลัง คือตั้งแต่บ้านหลังที่ 2 เป็นต้นไป จะต้องเสียภาษีทั้งหมด ไม่ว่าบ้านหลังนั้นจะมีราคาเท่าไรก็ตาม โดยคิดในอัตรา 0.02-0.10%
3. ที่ดินใช้ประโยชน์อื่น นอกจากเกษตรกรรมและที่อยู่อาศัย เพดานภาษีสูงสุด 1.2%
ที่ดินอื่น ๆ ที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เพื่อการเกษตรและการอยู่อาศัย เช่น เป็นที่ดินเพื่อเชิงพาณิชย์ อย่างโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ โรงงาน หอพักรายวัน บ้านเช่ารายวัน ต้องเสียภาษีตามอัตราต่อไปนี้
4. ที่รกร้างว่างเปล่า เพดานสูงสุด 3%
หากปล่อยที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างนั้นทิ้งไว้เฉย ๆ ไม่ได้ใช้ทำเกษตรกรรม ไม่ได้พักอาศัยหรือใช้ประกอบกิจการใด ๆ จะถูกจัดเป็นที่รกร้างว่างเปล่า ซึ่งเป็นกลุ่มที่เสียภาษีแพงที่สุด คือ

ถึงแม้ว่าที่ดินรกร้างจะเสียภาษีเท่ากับที่ดินใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ แต่หากเจ้าของที่ดินปล่อยรกร้างไว้นานติดต่อกัน 3 ปี เมื่อไปเสียภาษีในปีที่ 4 จะถูกเก็บเพิ่มอีก 0.3% และจะเพิ่มอัตราภาษีอีก 0.3% ในทุก ๆ 3 ปีที่ปล่อยที่ดินทิ้งไว้โดยไม่นำมาทำประโยชน์อะไร แต่โดยรวมทั้งหมดแล้วจะเก็บภาษีได้ไม่เกิน 3% ซึ่งเป็นเพดานสูงสุด

เป็นอย่างไรกันบ้างคะทุกคน สำหรับการอัพเดทข้อมูลการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 เจ้าของบ้าน เจ้าของที่ดิน คงพอคำนวณได้แล้วว่าจะต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในปี 2565 เท่าไหร่ ดังนั้นอย่าลืมวางแผนเรื่องภาษีให้เรียบร้อย และชำระภาษีภายในระยะเวลาที่กำหนดนะคะ