รวมเช็กลิสต์ก่อนเซ็นต์รับบ้าน คอนโด รู้ไว้ใช่ว่า!!!!

คงมีหลายคนที่เริ่มต้นปีใหม่และให้ของขวัญกับตัวเองด้วยการซื้อบ้าน หรือคอนโด ไว้สำหรับเป็นที่อยู่อาศัยกับครอบครัวและคนที่เรารัก แต่อีกเรื่องที่ต้องห้ามลืมว่าหลังจากที่เราซื้อบ้าน หรือคอนโด ก็คือ เราจะต้องมีการตรวจรับบ้าน หรือคอนโดของเราจากโครงการก่อนที่เราจะทำการเซ็นต์เอกสารตรวจรับบ้าน ซึ่งในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมากอย่างยิ่ง เพราะเราจะต้องใช้ความรู้และความละเอียดรอบคอบในการตรวจสอบและเช็กทุกรายละเอียดเพื่อให้เรารับมอบบ้าน หรือคอนโดของเราได้อย่างครบถ้วนและสมบูรณ์มากที่สุด และเมื่อตรวจพบว่าบ้าน หรือคอนโดนั้น มีตำหนิ ก็สามารถแจ้งให้ทางโครงการดำเนินการแก้ไขได้ทันที เพราะหากเราเซ็นต์รับบ้านไปแล้วมาเจอตำหนิต่าง ๆ ภายหลังอาจจะมีการแก้ไขและซ่อมแซมที่ล่าช้า หรืออาจจะมีการคิดค่าใช้จ่ายได้ค่ะ อย่าได้กังวลใจไปเลยค่ะ FazWaz ได้รวบรวมวิธีการตรวจรับบ้าน หรือคอนโดได้ด้วยตัวคุณเอง โดยไม่ต้องผ่านบริษัทรับตรวจบ้านมาฝากกัน และเราจะพาไปดูกันว่าสิ่งที่เราจะต้องตรวจเช็กอะไรบ้าง จุดไหนบ้างไปดูกันเลยค่ะ

รวมเช็กลิสต์ก่อนเซ็นต์รับบ้าน คอนโด รู้ไว้ใช่ว่า!!!!

1.ตรวจเช็กประตู หน้าต่าง เราต้องตรวจเช็กดูว่าบานประตู ลูกบิด บานพับ กลอนประตูหน้าต่างนั้น สามารถใช้งานได้ปกติ และต้องดูความเรียบร้อยของงาน อาจจะดูไปในส่วนของรอยตำหนิบนบานประตู รอยแตกร้าว สนิมบนบานพับและลูกบิด เป็นต้น และถ้าเป็นบานประตู หน้าต่างแบบบานเลื่อน ก็ต้องเน้นตรงขอบยางกันรั่วซึม โดยการฉีดน้ำไปที่ขอบมุมของบานหน้าต่าง และต้องดูด้วยว่ากลอนนั้นยังใช้งานได้ตามปกติหรือเปล่า

2.ตรวจความเรียบเนียนของผนัง สำหรับผนังจะต้องมีความเรียบไม่มีรอยแตกร้าวจุดนี้ไม่เป็นอันตรายต่อโครงสร้าง แต่อาจจะทำให้น้ำรั่วซึมได้ แต่ถ้ามีรอยร้าวแนวดิ่งหรือแนวเฉียง แบบนี้จะมีปัญหากับโครงสร้างได้ควรให้โครงการดำเนินการแก้ไขให้ สำหรับงานสี และวอลเปเปอร์ต้องใช้ไฟฉายส่องดูความเรียบเนียน เช็กวอลเปเปอร์ว่ามีเชื้อราหรือไม่ ถ้ามีรอยเชื้อราต้องแก้ที่ต้นเหตุว่ามีความชื้นจากห้องน้ำ ผนังรั่วซึมหรือไม่ สีจะต้องสม่ำเสมอและไม่มีรอยกาว เป็นต้น

รวมเช็กลิสต์ก่อนเซ็นต์รับบ้าน คอนโด รู้ไว้ใช่ว่า!!!!

3.ตรวจความโปร่งและกลวงของกระเบื้อง การเช็กกระเบื้องนั้นต้องใช้ความชำนาญและต้องดูว่าพื้นกระเบื้องจะต้องเรียบ ไม่ล่อนหรือบิ่น ทดสอบได้ด้วยการเคาะแล้วฟังเสียง ถ้าเคาะแล้วมีเสียงแตกต่างจากแผ่นกระเบื้องอันอื่นก็อาจจะเดาว่าปูนกาวใต้กระเบื้องไม่แน่น และควรทำการเคาะกระเบื้องให้ทั่วทุกแผ่น แล้วก็ต้องไม่ลืมเช็กสีของกระเบื้องว่าเป็นโทนสีเดียวกันหรือมีสีเพี้ยน ๆ เพราะบางครั้งกระเบื้องแบบเดียวกัน แต่สั่งซื้อคนละล็อตก็จะทำให้สีมีความแตกต่างเล็กน้อยได้ ถ้าโครงการไหนปูพื้นด้วยลามิเนต ก็มาดูกันว่าปัญหาสุดฮิตของลามิเนตก็คือ พื้นยุบตัว ลองตรวจและลองเหยียบดูให้ทั่ว ๆ ถ้าเหยียบแล้วมีรอยแตกร้าว หรือมีผงฝุ่นพวยพุ่งออกมา ก็อย่ารอช้าแจ้งโครงการโดยด่วนเพื่อทำการแก้ไข

4.ฝ้าเพดาน และหลังคา จุดนี้ก็สำคัญไม่น้อยที่ต้องตรวจเช็กดูว่ามีรอยรั่วซึมและมีการเดินสายไฟและฉนวนกันความร้อนเรียบร้อยดีไหม ฝ้าเพดานก็จะต้องไม่แตกร้าว ไม่แอ่นและโค้งงอ และต้องไม่มีคราบน้ำรั่ว คุณอาจจะต้องปีนบันไดขึ้นไปเปิดช่องเซอร์วิสเพื่อทำการตรวจเช็กกันเลยค่ะ

รวมเช็กลิสต์ก่อนเซ็นต์รับบ้าน คอนโด รู้ไว้ใช่ว่า!!!!

5.ตรวจเช็กห้องน้ำและอุปกรณ์ในห้องน้ำ ชักโครกจะต้องมีการใช้งานที่ปกติ ไม่มีกลิ่น และต้องไม่มีการรั่วซึมตามขอบโถ ความเร็วในการระบายน้ำของรูระบายและอ่างล่างหน้า และต้องตรวจดูว่ารูระบายน้ำทิ้ง (Floor Drain) กับท่อน้ำต่อกันสนิทดีหรือไม่ เพราะหากไม่สนิทอาจจะทำให้เกิดปัญหาน้ำรั่วซึมไปยังห้องข้างล่างได้

6.เช็กระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ ตรวจเช็กสวิตช์และเต้ารับ ต้องเช็กทุกจุดและใช้เครื่องทดสอบเบรกเกอร์ตัดไฟรั่วไหล และต้องดูว่าการเดินสายไฟ สายดิน และระบบตัดไฟติดตั้งได้อย่างถูกต้องไหม หากเป็นคอนโด ที่มักจะแถมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้ามาให้นั้น ก็จะต้องตรวจเช็กให้ละเอียดรอบคอบ อย่างเช่น แอร์ เครื่องทำน้ำอุ่น เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันเป็นต้น เราอาจจะทดลองใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าเหล่านั้นสักระยะหนึ่ง ว่ามีปัญหาในการใช้งานหรือไม่

7.มิเตอร์น้ำและมิเตอร์ไฟ สำหรับมิเตอร์เป็นจุดที่หลาย ๆ คนอาจจะมองข้าม เราจะต้องตรวจดูว่ามิเตอร์หมุนโดยที่เรายังไม่ได้ใช้น้ำและไฟฟ้าหรือไม่ หรืออาจจะหมุนเร็วผิดปกติ แบบนี้ก็ต้องรีบแจ้งทางโครงการเลยค่ะ

รวมเช็กลิสต์ก่อนเซ็นต์รับบ้าน คอนโด รู้ไว้ใช่ว่า!!!!

ทั้ง 7 หัวข้อที่สรุปมานั้น ล้วนเป็นจุดสำคัญในการตรวจเช็กบ้านหรือคอนโด ก่อนที่จะมีการเซ็นต์เอกสารรับบ้านและคอนโด อย่าลืมจดบันทึกจุดตำหนิ ต่าง ๆ พร้อมถ่ายรูปเป็นหลักฐาน ตรงจุดที่ต้องดำเนินการแก้ไขไว้ด้วย และต้องให้โครงการดำเนินการแก้ไขให้เสร็จก่อนที่จะเซ็นต์รับบ้านเพราะถ้าไม่อย่างนั้น โครงการอาจจะไม่ดำเนินการแก้ไขหรืออาจจะมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หลังจากที่เราเซ็นต์เอกสารรับบ้านไปแล้ว สิ่งสำคัญอีกเรื่องก็อย่าลืมตรวจเช็กสัญญาบ้านต่าง ๆ ให้เรียบร้อยด้วยนะคะ เพียงเท่านี้เราก็พร้อมที่จะเซ็นต์รับบ้าน หรือคอนโดได้อย่างสบายใจล่ะ คราวนี้ก็จะเหลือแค่ตกแต่งบ้านเพิ่มเติมก็พร้อมที่จะย้ายเข้าได้อย่างสบายใจแน่นอนค่ะ