สวัสดีค่ะ วันนี้ BaanThai มีบทความดีๆมานำเสนอแบ่งปันให้กับผู้อ่านทุกคนเกี่ยวกับทริคการตกแต่งห้องให้สวยด้วยการใช้แสงไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโด หรืออพาร์ทเม้นต์มาฝากกันค่ะ
อันดับแรกเลยเรามารู้จักการจัดแสงก่อน เนื่องจากการจัดแสงเป็นหนึ่งในองค์ประกอบที่ทำให้ห้องของคุณนั้นดูมีมิติสวยงาม เพราะเราต้องใช้เวลาอยู่ในห้องทั้งกลางวันและกลางคืน ดังนั้น การให้แสงสว่างแก่ห้องจึงถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญเช่นกัน ซึ่งการให้แสงสว่างในห้องนั้นจะมีทั้งเพื่อให้แสงสว่าง (เพื่อการใช้งาน) และเป็นการตกแต่ง (เพื่อสร้างบรรยากาศ) โดยห้องไหนจะจัดไฟให้แสงสว่างอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะของประเภทห้องอีกด้วย
การจัดแสงเพื่อให้แสงสว่าง คือ การใช้งานโดยทั่วไป ให้ความสว่างกระจายไปทั่วพื้นที่ห้อง หรือส่องในบริเวณที่ต้องการ ตลอดจนให้แสงสว่างเพื่อการใช้งานเฉพาะจุดที่ช่วยให้ทำกิจกรรมต่างๆได้สะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ทำงาน รับประทานอาหาร ซึ่งควรเลือกหลอดไฟและโคมไฟที่เน้นการให้แสงสว่างเป็นลำส่องตรงเฉพาะจุดที่ไม่กว้างมาก
การจัดแสงเพื่อสร้างบรรยากาศ เป็นการจัดแสงในห้องเพื่อศิลปะการตกแต่งเพื่อสร้างบรรยากาศให้น่าสนใจหรือกำหนดจุดที่ต้องการให้ความสนใจเป็นพิเศษ
เทคนิคในการจัดแสงให้ห้องดูดีมีสไตล์
1. จัดแสงไฟแบบฝังฝ้า การจัดแสงไฟแบบนี้ทำให้แสงไฟดูมีเลเยอร์ และห้องของคุณดูดีขึ้น มีสไตล์ และช่วยเน้นให้ภาพศิลปะที่ติดผนังดูโดดเด่น ส่องสว่างตามทางเดิน หรือสำหรับห้องที่ต้องการแสงสว่างภายในที่ค่อนข้างขรึม ให้ความรู้สึกนิ่ง เป็นการจัดไฟเป็นจุดส่องลงจากเพดาน เน้นให้ความสว่างบางจุดและครึ้มบางจุดเพื่อมีเงาตกกระทบตามวัตถุ ทำให้เกิดมิติใช้แสงไฟช่วยให้มีน้ำหนักแตกต่างกันในแต่ละระนาบของพื้นผิว
2. จัดแสงไฟเฉพาะจุด คือ เทคนิคในการใช้ไฟส่องเฉพาะจุด โดยส่วนใหญ่มักใช้หลอด LED ซึ่งจะได้แสงสว่างแบบนวลตาและจะไม่ส่งผลกระทบกับส่วนข้างๆ เช่น จุดสำคัญต่างๆที่มใช้แสงสว่างเป็นครั้งคราวแทนที่จะเปิดไฟทั้งห้องให้เลือกเปิดเฉพาะจุดแทน นอกจากนี้ การใช้แสงสำหรับใตู้ตู้ ชั้นวางของ แสงไฟใต้ตู้ BaanThai แนะนำให้ใช้สีนวลตา เพราะจะช่วยสร้างบรรยากาศความอบอุ่นให้มุมนั้นๆได้ ซึ่งไฟประเภทนี้ใช้เพื่อสร้างอารมณ์ของห้อง มุมที่นิยม เช่น ใต้ชั้นลอยติดผนังในห้องรับแขก ใต้ตู้แขวนในครัว หรือเคาท์เตอร์ในห้องครัว เนื่องจากไฟนุ่มๆนวลตาจะช่วยเพิ่มสีสันของอาหารให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
3. ติดตั้งแสงหลังทีวี เพื่อถนอมสายตา โดยส่วนใหญ่แล้ว ทีวีมักจะอยู่ตามห้องต่างๆและหลายคนชอบเปิดไฟเมื่อดูทีวี เพื่อให้สายโฟกัสไปยังจอทีวีเพียงที่เดียว เพราะถ้าเปิดทั้งห้องก็จะรู้สึกว่าสว่างมากเกินไป และแสงสว่างจ้าจากหน้าจอในขณะที่ห้องมืด อาจทำให้สายตาเสียได้ ดังนั้น การติตตั้ง Back Light หลังทีวี จะช่วยลดความต่างระหว่างความมืดและความสว่างได้ดี ตลอดจนช่วยให้การดูทีวีผ่อนคลายสบายตายิ่งขึ้น
4. การจัดแสงด้วยระบบเซนเซอร์ เปิด-ปิด อัตโนมัติ เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีแสงไฟที่ติดตั้งบริเวณเพดาน หัวนอน หรือบริเวณที่ต้องการเพื่อความสะดวกในการใช้งานและช่วยในเรื่องของพลังงาน นอกจากนี้สามารถติดที่ขอบล่างตามทางเดินหรือขอบล่างของเตียง เพื่อช่วยเพิ่มแสงสว่างในยามที่ต้องการจะใช้งาน เช่น เมื่อต้องการลุกไปทำธุระในตอนกลางคืน โดยไม่ต้องเปิดไฟให้สว่างทั้งห้อง เมื่อเดินผ่านหรือก้าวลงจากเตียง ระบบไฟก็จะทำงานโดยอัตโนมัติ ซึ่งการจัดแสงด้วยระบบเซนเซอร์นี้เหมาะกับห้องนอนของผู้สูงอายุ เนื่องจากสามารถช่วยลดปัญหาการประสบอุบัติเหตุได้
นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่ใช้แสงในการตกแต่งห้อง นั่นคือ การเลือกใช้โทนสีของแสงไฟ เนื่องจากสีของแสงไฟสามารถส่งผลต่อบรรยากาศของห้องได้ เช่น แสง Warm White จะเป็นแสงนวล สีเหลืองอ่อนๆ ไม่ส้มจัด เป็นแสงที่ให้ความสบายตาและไม่สว่างมาก ส่วนแสง Daylight นั้น เป็นแสงโทนเดียวกับความสว่างของช่วงกลางวัน สีออกโทนสีฟ้า ทำให้มองเห็นอย่างชัดเจน เหมาะกับพื้นที่ทำงาน สำหรับแสง Cool White จะเป็นแสงไฟที่อยู่ในระหว่าง Warm White และ Daylight ให้แสงสีขาว แต่ไม่ขาวมากสามารถใช้ได้กับทุกพื้นที่
สิ่งสำคัญในการจัดแสงภายในห้อง ไม่เพียงแค่ให้ความสวยงามเท่านั้น แต่ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยของแสงเหล่านั้นด้วย ซึ่งบทความที่ BaanThai ได้นำเสนอนี้จะช่วยให้คุณเลือกการจัดแสงไปปรับใช้ในห้องของคุณให้สวยงาม ดูดีมีสไตล์ได้
