หลาย ๆ คนคงมีความคิดกันใช่มั้ยล่ะคะว่า อยากจะรีโนเวทบ้านของเราให้สวยเหมือนใหม่ แต่ก็ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี และควรทำอย่างไรเพื่อให้เป็นการประหยัดทั้งเงินทั้งเวลาให้ได้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเพียงแค่การต่อเติม หรือปรับปรุงเล็กน้อยเพื่อซ่อมแซมในส่วนที่ทรุดโทรม หรืออยากจะปรับปรุง เปลี่ยนแปลงบ้านใหม่ให้หมดทั้งหลัง ให้บ้านของเรากลับมาสวยงาม มีชีวิตชีวา และน่าอยู่มากขึ้น อีกทั้งการรีโนเวทบ้าน หรือการซื้อบ้านเก่าและตึกเก่ามารีโนเวทในปัจจุบัน ก็ยังได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากหลาย ๆ คนคิดว่า การรีโนเวทบ้านมีความคุ้มค่ากว่าการสร้างใหม่ หรือบางคนอาจต้องการอนุรักษ์โครงสร้างตัวอาคารเดิมเอาไว้ ดังนั้น การรีโนเวทจึงเป็นหนึ่งในคำตอบที่ดีที่สุด ที่จะช่วยให้บ้านของเรากลับมาสวยสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง

วันนี้ทาง Fazwaz ก็มี 6 เคล็ดลับดี ๆ มาฝากให้ทุกคนได้เก็บไว้เป็นข้อพิจารณาและเตรียมพร้อมก่อนการรีโนเวทบ้าน สำหรับให้เราได้วางแผนอย่างชาญฉลาด เพื่อให้บ้านออกมาดูดี คุ้มค่ากับเงินที่เราทุ่มจ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ ส่วนจะมีเคล็ดลับอะไรและอย่างไรบ้างนั้น ตามมาดูกันเลยค่ะ

1. กำหนดวัตถุประสงค์ ก่อนอื่นเราควรมีเป้าหมายที่ชัดเจน โดยตั้งโจทย์ให้ชัดเจนว่าเราต้องการรีโนเวทบ้านส่วนไหนและปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เช่น เลือกซ่อมแซมเพียงบางส่วนของบ้านที่เกิดความเสียหาย ต้องการตกแต่ง-ต่อเติมเพื่อรองรับการใช้งานหรือรองรับสมาชิกในบ้านที่เพิ่มขึ้น หรือเราต้องการปรับปรุงบ้านใหม่หมดทั้งหลัง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ทิศทางของการออกแบบมีความชัดเจนขึ้น และเรายังสามารถศึกษา รวบรวมแบบที่ต้องการ รวมไปถึงขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและสถาปนิกเกี่ยวกับการรีโนเวทได้

กำหนดวัตถุประสงค์ในการปรับปรุงบ้าน

2. วางแผนงบประมาณ เพื่อกันงบบานปลาย เงิน ๆ ทอง ๆ เป็นเรื่องหนึ่งที่สำคัญ งบประมาณก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องเตรียมการให้พร้อมว่าเราควรจะทุ่มงบให้กับการรีโนเวทบ้านในครั้งนี้เท่าไหร่ดี และเราอาจจะต้องมีการตั้งงบเผื่อไว้ให้เกินไปอีกสักประมาณ 10-30% เพื่อไว้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้างานบางอย่างที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยเราอาจแบ่งงบประมาณออกเป็น 4 ส่วนย่อย ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการกำหนด คือ ค่าช่าง ค่าออกแบบโดยสถาปนิกหรือค่าบริการที่ปรึกษา ค่าวัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงค่าเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งอื่น ๆ โดยเราอาจศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญ รวมไปถึงการเปรียบเทียบราคาวัสดุอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์จากแบรนด์ต่าง ๆและอาจไปเลือกซื้อด้วยตัวเองเพื่อควบคุมงบประมาณในส่วนนี้ได้

วางแผนงบประมาณในการรีโนเวทบ้าน

3. ช่างฝีมือ เราควรหาช่างผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์และมีฝีมือที่ไว้ใจได้ เพราะหนึ่งในปัญหาที่อาจสร้างความกังวลใจให้แก่เจ้าของบ้านได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ช่างผู้รับเหมาทำงานไม่เรียบร้อย ทำงานไม่เสร็จตรงตามกำหนด หรืออาจทิ้งงานไปกลางคัน เป็นต้น ดังนั้น เราควรเลือกช่างหรือบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือ โดยอาจดูจากผลงานที่ผ่านมาหากเป็นช่างอิสระ ราคาสมเหตุสมผล และควรเลือกใช้ช่างที่มีความชำนาญในแต่ละประเภทของงานซ่อม เช่น ช่างปูน ช่างไม้ ระบบไฟฟ้า เป็นต้น

เลือกช่างฝีมือที่มีประสบการณ์ในการรีโนเวทบ้าน

4. การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เราควรร่วมกันเลือกเฟอร์นิเจอร์และวัสดุก่อสร้างกับสถาปนิกหรือผู้เชี่ยวชาญ ให้เหมาะกับการใช้งานที่เข้ากับบ้านของเรา และควรเลือกสิ่งของและวัสดุที่มีความแข็งแรง ได้มาตรฐาน ทนทานต่อการใช้งาน มีดีไซน์ที่สวยงามถูกใจ เหมาะกับงบประมาณที่เราตั้งเอาไว้ รวมไปถึงเราควรเลือกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในบ้านเก่าของเราที่ยังสามารถใช้งานได้ เอามาทำความสะอาด ปรับปรุง ทาสีใหม่ให้เข้ากับแบบบ้านที่เรากำลังจะรีโนเวท เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายของเราลงไปได้ส่วนหนึ่งเช่นกัน

เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์สวยงาม คงทน ในการรีโนเวทบ้าน

5. ตัดสินใจให้ดี อย่าเปลี่ยนใจไปมา การเปลี่ยนแบบของบ้านระหว่างการรีโนเวท หรือแม้กระทั่ง สี หรือวัสดุบางอย่างที่เราเห็นของจริงแล้วไม่สวย อยากรื้อทิ้งทำใหม่ หรือเปลี่ยนสีใหม่ อันนี้ไม่ใช่ปัญหาใหญ่เลย แต่เราควรตัดสินใจให้ดีและไม่ควรเปลี่ยนนั่น เปลี่ยนนี่ไปมาในขณะที่เริ่มงานไปแล้ว เพราะนอกจากจะเป็นการเสียเวลาแล้ว อาจยังเป็นการเพิ่มงบประมาณในการซื้อวัสดุหรือสีใหม่โดยไม่รู้ตัว ดังนั้นเราจึงควรทำลิสต์รายชื่อวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องการใช้เอาไว้ก่อน จัดลำดับความสำคัญและความจำเป็น เพื่อลดความยุ่งยากและหลีกเลี่ยงการรื้อแบบทิ้งแล้วต้องมานับหนึ่งใหม่

ควรตัดสินใจให้ดีก่อนเริ่มทำการรีโนเวทบ้าน

6. ไม่ควรอยู่ในบ้านในขณะที่กำลังรีโนเวท หากเราต้องทำการปรับปรุงบ้านทั้งหลัง แน่นอนว่าจะต้องมีการรื้อถอน ก่อผนัง ตอกตะปู มีวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ วางอยู่เต็มบ้านมากมาย อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของเสียงและฝุ่นละอองในระหว่างการก่อสร้างอีกด้วย ดังนั้นจึงเราควรย้ายไปอยู่ที่อื่นเป็นการชั่วคราว เพื่อทั้งตัวเราเองและครอบครัวจะได้ไม่ต้องปวดหัวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้จากการก่อสร้าง อีกทั้งยังได้ปล่อยให้ช่างทำงานได้อย่างสะดวกขึ้นอีกด้วย โดยที่เรายังคอยอำนวยความสะดวกและสามารถดูแลงานรีโนเวทอย่างใกล้ชิดได้ จนกว่าบ้านจะรีโนเวทเสร็จ

ไม่ควรอยู่ในบ้านที่กำลังรีโนเวท

เห็นมั้ยล่ะคะว่าการรีโนเวทบ้านเก่าของเราให้กลับมาใหม่นั้น สามารถทำได้ไม่ได้ยากเลย เพียงแต่เราต้องใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ หาคำแนะนำดี ๆ จากผู้มีประสบการณ์ในจุดที่เราไม่เชี่ยวชาญให้ได้มากที่สุด ไม่ควรรีบร้อน และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ความปลอดภัยและความแข็งแรงทนทานของตัวบ้าน เพราะอย่าลืมไปว่าบ้านหลังนี้จะต้องอยู่กับเราไปอีกนาน ดังนั้นเราจึงควรตัดสินใจและใส่ใจกับทุกจุดในบ้าน เพื่อให้บ้านออกมาสวยถูกใจ น่าอยู่กว่าเดิมอย่างที่เราตั้งใจไว้ เรียกได้ว่า ยิ่งอยู่ ยิ่งแฮปปี้ มีความสุขมากขึ้นเรื่อย ๆ