ในปัจจุบันโลกของเรากำลังประสบกับปัญหาภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี ดังเห็นได้จากอุทกภัยน้ำท่วม ภัยแล้ง หรือจากพายุต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่เลวร้ายเหล่านี้ เราจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยกันลดปัญหาภาวะโลกร้อนนี้อย่างเร่งด่วน ซึ่งก็มีด้วยกันหลากหลายรูปแบบ อาจจะเริ่มต้นจากสิ่งใกล้ตัวในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น การใช้ถุงผ้าแทนการใช้ถุงพลาสติก การฝึกคัดแยกขยะ การเลือกใช้วัสดุและผลิตภัณฑ์ที่ย่อยสลายได้ง่าย ตลอดจนการสร้างบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงานโดยเป็นที่รู้จักกันในนาม “ECO House”


ECO House คืออะไร ?

โดย “ECO House” ย่อมาจากคำว่า Ecology House ซึ่งในปัจจุบันเป็นเทรนด์รักษ์โลกที่กำลังเป็นกระแสนิยมและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยเป็นการนำเสนอรูปแบบบ้านที่ช่วยประหยัดพลังงาน ปกป้องสภาพแวดล้อม และการนำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้โดยให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ใช้งานเท่าที่จำเป็น และได้คำนึงถึงความเชื่อมโยงส่วนต่าง ๆ ภายในตัวบ้านที่จะต้องเข้ากันกับระบบนิเวศรอบตัวบ้าน โดยสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต อาทิเช่น อุณหภูมิ แสง ความชื้น นอกจากนี้ยังนำเอาเทคโนโลยีของการสร้างบ้านมาผสมผสาน เพื่อความยั่งยืนต่อผู้อยู่อาศัยและระบบนิเวศอีกด้วย และให้ความสำคัญในการจัดการต่าง ๆ เน้นสิ่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เป็นต้น


ทำไมต้องสร้างบ้านแบบ ECO House?

การสร้างบ้าน ECO House จะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่ส่งเสริมในการใช้ทรัพยากรอย่างพอเพียง ลดการใช้ทรัพยากรที่ก่อให้เกิดมลภาวะ พร้อมทั้งส่งเสริมให้เกิดไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีจิตสำนึกที่ดีต่อสิ่งแวดล้อม และมีความรู้ความเข้าใจกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่โดนทำลาย ที่จะส่งผลเสียต่อมนุษย์ในที่สุด จึงเกิดการอยู่อาศัยที่อิงกับธรรมชาติ ส่งผลช่วยให้ประหยัดพลังงาน และยังช่วยลดปัญหาด้านค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย


วันนี้ทาง Fazwaz.co.th มีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะช่วยให้บ้านของคุณเป็นบ้านที่ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาแนะนำ เพื่อเป็นไอเดียในการสร้างบ้านในสไตล์ Eco House มาฝากกันค่ะ

1.วัสดุ
วัสดุที่นำมาก่อสร้าง ควรเป็นวัสดุที่ประหยัดพลังงาน มีคุณภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนั้นหากเลือกวัสดุที่มีน้ำหนักเบาก็สามารถช่วยลดขนาดโครงสร้างอาคารลงได้ เพื่อเป็นการประหยัดทั้งงบประมาณในการก่อสร้างและทรัพยากรธรรมชาติได้อีกด้วย

2.เฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ ECO
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบ ECO design อาทิเช่น โซล่าเซลล์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมช่วยประหยัดพลังงานภายในบ้านอีกด้วย อีกทั้งให้ความสำคัญในการเอามาใช้ใหม่ Reuse Reduce และ Recycle ได้

ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ เพื่อประหยัดพลังงาน

3.ทิศทางลมและการวางผังบ้าน
ถือว่าเป็นข้อที่ควรให้ความสำคัญมากที่สุด เพราะบ้านควรวางอยู่ในทิศทางลมผ่านเข้า-ออกได้ เพื่อการถ่ายเทอากาศ และระบายความร้อน และหากวางตำแหน่งบ้านหรือห้องที่ใช้งานเป็นประจำอยู่ในทิศทางที่หลีกเลี่ยงแสงแดด ก็สามารถลดความร้อนภายในห้องได้

4.พื้นที่สีเขียวภายในบ้าน
พื้นที่สีเขียวภายในบริเวณบ้านก็มีความสำคัญมากเช่นกัน การเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน สามารถช่วยให้ผู้อาศัยได้เพลิดเพลินไปกับการอยู่อาศัยใกล้ชิดธรรมชาติ มีความร่มรื่นของร่มเงาต้นไม้ และต้นไม้ยังช่วยป้องกันแสงแดดระหว่างวัน เพิ่มความชื้นในอากาศ และช่วยในการผ่อนคลายได้อีกด้วย โดยสามารถเลือกปลูกต้นไม้หรือหญ้าเป็นแนวรั้ว รอบบ้าน หรือไว้บนหลังคา เพื่อเป็นตัวช่วยกรองความร้อนของบ้านได้เช่นกัน

ตัวอย่างการปลูกหญ้าบนหลังคา

5.แสงธรรมชาติ
แสงธรรมชาติเป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้ชีวิต หากออกแบบช่องเปิดรับแสงได้อย่างพอดี ไม่รับแสงเข้มหรืออ่อนจนเกินไป ก็จะทำให้ลดการจ่ายค่าไฟฟ้า และยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

6.ฟังก์ชันมาพร้อมกับความสวยงาม
จุดเด่นของแนวคิดบ้านในสไตล์ ECO House จะคำนึงถึงประโยชน์การใช้สอย และการใช้พื้นที่เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าอย่างสูงสุด ด้วยการออกแบบผังบ้านที่ทุกพื้นที่ภายในบ้านจะสามารถใช้งานได้จริง แต่อย่างไรก็ตามความสวยงามภายในบ้านก็เป็นสิ่งจำเป็น และหากผู้อาศัยอยากตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงามและเรียบง่าย แนะนำให้แต่งด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์จากไม้ หรือชิ้นเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์วินเทจ ก็จะเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศที่แสนอบอุ่นท่ามกลางธรรมชาติในฉบับของ ECO House

ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้

7.ฉนวนกันความร้อน
หากกังวลในส่วนปัญหาเรื่องความร้อนภายในบ้าน สามารถแก้ไขได้ด้วยการติดฉนวนกันความร้อนทั้งในส่วนของหลังคาและเพดาน โดยฉนวนกันความร้อนจะทำหน้าที่ช่วยป้องกันความร้อนภายในบ้าน เพื่อการประหยัดพลังงานและไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน

วัสดุที่ใช้เป็นฉนวนกันความร้อนในปัจจุบันมีความหลากหลายให้เลือกใช้ อาทิเช่น ฉนวนโฟม ฉนวนใยแก้ว ฉนวนใยหิน ฉนวนอลูมิเนียมฟอยล์ และเซลลูโลส เป็นต้น โดยเจ้าของบ้านควรศึกษาความแตกต่างของวัสดุแต่ละชนิดอย่างละเอียด เพื่อให้เกิดความเหมาะสมกับตัวบ้านของเรามากที่สุดค่ะ


ทั้งหมดที่กล่าวมานั้นเชื่อว่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านทุกคน และพอจะเป็นแนวทางในการสร้างบ้านในยุคสมัยใหม่ เและยังเชื่อว่าผู้คนจะหันมาสร้างบ้านในรูปแบบประหยัดพลังงานกันมากขึ้น จากปัญหาในด้านทรัพยากรและปัญหาทางมลภาวะต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้คนเริ่มตระหนักและมองเห็นปัญหากันมากขึ้น ทางเลือกในการสร้างบ้านในสไตล์ ECO House จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ และเหมาะที่จะนำมาประยุกต์ใช้ในอนาคตอย่างแน่นอนค่ะ