อสังหาฯ 4.0 แข่งด้านบริการสร้างความต่าง
เราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้แนวโน้มที่อยู่อาศัยของประเทศไทย เช่น บ้าน คอนโด ล้วนแต่มีราคาแพงมากเกินความเป็นจริงส่งผลให้อาจจะเกินกำลังซื้อของผู้บริโภค เนื่องจากสาเหตุระดับรายได้ของคนในประเทศเติบโตไม่ทันต้นทุนที่ดิน นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการบมจ. แสนสิริ ได้แจงว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยุค 4.0นั้นเลี่ยงไม่ได้เลยเจ้าของโครงการต่างต้องปรับตัว เกมกลยุทธ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ พิชิตใจผู้บริโภคและนอกจากตัวสินค้าจะดีแล้ว ด้านบริการหลังการขายก็ต้องดีด้วยและใครเริ่มก่อนย่อมดีกว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแน่นอน
บ้านแพงเพราะที่ดิน
สำหรับเรื่องที่อยู่อาศัยของไทยมีราคาแพงจนอาจจะจับจองเป็นเจ้าของได้ยากขึ้นนั้นเกิดขึ้นมานานนับ 10 ปีสาเหตุสำคัญมาจากต้นทุนราคาที่ดินที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอดีตคอนโด 1 ห้องนอน จะมีขนาด 55-60 ตารางเมตร แต่ปัจจุบันเหลือเพียง 25 ตารางเมตรเท่านั้น เป็นการปรับตัวของผู้พัฒนาผ่านไซส์ให้เล็กลง ในอดีตคุณยังสามารถหาซื้อบ้าน 5 ล้านบาทได้ตามทำเลรามคำแหง ปัจจุบันคุณอาจจะต้องไปไกลถึงวงแหวนรอบนอกเลยทีเดียว ทั้งหมดเป็นเรื่องของต้นทุนและอำนาจการซื้อที่เปลี่ยนไป ผู้บริโภคเองก็ต้องปรับตัว
เทรนด์อยู่อาศัยโลก
นอกจากปัจจุบันผู้บริโภคมีการปรับตัวในด้านราคาแล้ว สิ่งหนึ่งที่เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนขึ้นในแง่การใช้ชีวิตและอยู่อาศัย ก็คือ การบริการ เพราะคนมีเวลาน้อยลงและต่างก็ต้องการความสะดวกสบาย จะเห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจ Delivery ของอาหาร การบริการหลังการขายมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อบ้านเป็นอันดับแรก ๆ และปัจจุบันหลาย ๆ โครงการต่างก็เริ่มจะให้ความสำคัญในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก
การแข่งอสังหาริมทรัพย์ไทยยุค 4.0
สำหรับเรื่องราคาถูกกว่าไม่ใช่ปัจจัยหลักอีกต่อไปในเกมการแข่งขันของอสังหาริมทรัพย์เพราะประเทศไทย กำลังก้าวสู่จุดมาตรฐานด้านดีไซน์และคุณภาพวัสดุ ทัดเทียมกันมากขึ้น เกมแข่งขันต่อไปก็จะขึ้นอยู่กับการพัฒนาบริการที่ต้องดีกว่า เหนือกว่า เพื่อจะสร้างจุดเด่นให้กับตัวโครงการเอง บางโครงการก็จะมีบริษัทก่อสร้าง ฝ่ายขาย ฝ่ายการตลาด ดูแลการปล่อยเช่า แต่น้อยโครงการที่จะมีทีมนิติบุคคล ดูแลบริการหลังการขายเอง ทำให้หลายโครงการมีดีเรื่องทำเล แต่ราคากลับไม่ขึ้น เพราะโครงสร้างวัสดุ หรือถนนไม่ได้รับการปรับปรุงบำรุงรักษา แต่ในแง่ผู้บริโภคต่างก็ย่อมคาดหวังต่อมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ถ้าไม่มี การบริการเข้าไปร่วม จะทำให้ขายยิ่งขึ้น
เจาะกลยุทธ์โฮมแคร์
เทรนด์นี้กำลังได้รับความนิยมจึงต้องการเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน ซึ่งจะมีผลต่อแบรนด์และความน่าเชื่อถือ และโครงการได้หยิบมาใช้นำรอง 2 บริการได้แก่ ในแง่บริการความปลอดภัยให้ลูกบ้าน และการดูแลรักษางานระบบผ่านศูนย์ส่วนกลาง ทำให้ได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้าเพิ่มขึ้นในทันที ในปี 2562 นี้ แสนสิริเองก็เตรียมส่งบริการใหม่ในรูปแบบ “โฮมแคร์” เสริมก็จะเป็นรูปแบบการดูแล ตั้งแต่ซื้อ-โอน -อยู่อาศัย คือจบทุกบริการผ่าน “โฮมแคร์” ได้ทุ่มงบลงทุนกว่า 100 ล้านบาท การบริการลักษณะนี้ก็จะคล้ายการซื้อประกันดูแลรักษาบ้านระยะยาวหลังหมดประกันตามกฎหมาย ทั้งในแง่ดูแลเชิงป้องกันและการดูแลซ่อมบำรุง เป้าหมายบ้านอายุไม่เกิน 5 ปี และเชื่อจะเป็นการรักษาฐานลูกค้าและใช้เจาะลูกค้ายุคใหม่ได้อย่างดี
สำหรับผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ถ้ามีโอกาสได้ซื้อบ้าน คอนโด ไม่ว่าจะซื้อไว้สำหรับอยู่อาศัยเอง หรือซื้อไว้เพื่อการลงทุน สำหรับการปล่อยเช่าทั้งระยะสั้นและระยะยาวนั้น ก็ต้องศึกษารายละเอียดของแต่ละโครงการให้เข้าใจและมีความชัดเจน รวมไปถึงการให้บริการจนจบกระบวนการขาย ตลอดจนถึงขั้นว่า มีการบริการหลังการขายด้วยหรือไม่ เพราะเดี๋ยวนี้หลาย ๆ โครงการก็เริ่มที่จะให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากขึ้น เราก็จำเป็นที่จะต้องศึกษาหาข้อมูลเพื่อที่เราจะได้สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับนะคะ