ปัจจุบัน ตามเมืองและทำเลที่ตั้งต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีถนนตัดใหม่ รถไฟฟ้า ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ รวมทั้งความสะดวกสบายอย่างอื่น ๆ เข้าถึง สิ่งเหล่านี้ ก็จะก่อให้เกิด งาน มากมาย แต่เพราะเหตุผลใดกันนะ ถึงทำให้คนถึงได้ตัดสินใจ ขายบ้านเก่า บ้านมือสอง พร้อมที่ดิน เพ่ิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  ดังเช่น ชุมชนย่านชานเมือง แถบลำลูกกา บางนา ศรีนครินทร์ มีการลงประกาศขายบ้านกันเยอะมาก จนทำให้ธนาคารได้โอกาส และจังหวะดีมาก รีบปล่อย NPA พีดีเฮ้าส์ ทันที สืบเนื่องจาก เจ้าของบ้าน ที่ดิน หวังที่จะตัดปัญหาเลี่ยงที่จะไม่จ่ายภาระภาษีที่ดินในปีหน้านี้จ้า

ผลพวงของเศรษฐกิจไทย ทำให้คนตัดสินใจแห่ขายบ้าน พร้อมที่ดิน เพิ่มมากขึ้น  จริงหรือ?

ปัจจุบันได้มีคนประกาศขาย บ้านมือสอง พร้อมที่ดินเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 จะบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 2563 พร้อมกับปรับขึ้นราคาประเมินใหม่ สะท้อนว่าถ้าปีนี้ใครไม่ทำอะไรเลย และใครที่ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้านพร้อมที่ดิน ในปีหน้านั้น ก็ต้องจ่ายค่าภาษี นั่นก็จะรวมไปถึงนักเก็งกำไรหรือนายหน้าที่ซื้อ บ้าน ที่ดิน ไว้ปั่นราคาและเก็งกำไร ก็เริ่มปล่อย บ้าน และ ที่ดินออกมาขายกันยกใหญ่เลยทีเดียว  สาเหตุเพราะสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว และทำให้ไม่อยากรับภาระภาษีที่จะตามมาในปีหน้าอีกด้วย จึงอยากเปลี่ยนสินทรัพย์ให้เป็นเงินสด

โดยเฉพาะ บ้านมือสอง ย่านคลองรังสิต ได้มีการปล่อยสำหรับ ขาย เยอะมาก ประมาณว่าซื้อไว้นานแล้วแต่ไม่เคยคิดจะเข้าอยู่อาศัย เพียงแค่จะรอความเจริญมาถึง แล้วค่อยประกาศขาย หวังเพื่อจะได้ราคาขายที่สูงกว่า ตอนที่ซื้อมาตอนแรก เป็นการเก็งกำไรเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ ณ ปัจจุบัน ทฤษฏีเหล่านั้นใช้ไม่ได้อีกต่อไป ต่างได้ตัดสินใจขายดีกว่าจะได้ไม่ต้องเสียภาษีในปีหน้า เพราะปกติแล้วคนขายที่ดินบางทีบอกขายเดือนนี้ ราคานี้ แต่พอเดือนหน้าราคาก็ขยับขึ้นไปอีก แต่ตอนนี้ทำอย่างนั้นไม่ได้ ไม่สามารถที่จะขยับราคาขายให้สูง มากไปกว่านี้ได้ แถมยังมีการต่อรองราคา ที่คอนข้างสูง จากผู้ซื้ออีกด้วย บางครั้งก็มีการขายตัดราคากันก็มี

ส่วนที่ดินเปล่าในเขตปทุมธานี ราคาก็จะพ่วงไปกับราคาของโครงการบ้านจัดสรร เช่น โครงการจัดสรรเมื่อก่อน จะซื้อที่ดินราคาไม่แพงมาก แต่พอทำโครงการขาย ราคาจะอยู่ที่ 2-3.5 หมื่นบาท/ตารางวา ขึ้นอยู่กับทำเลและที่ตั้ง ก็จะส่งผลให้ที่ดินเปล่านอกโครงการจัดสรร มีราคาไล่ขึ้นมา มีราคาแพงขึ้นไปด้วย จะมีราคาไล่ขึ้นมาเป็น 1.5 หมื่นบาท/ตารางวา ทั้งที่ความเป็นจริง ราคาประเมินของรัฐอยู่ที่ 5,000 บาท/ตารางวา ยิ่งถ้าแถวไหนอยุู่ใกล้กับ สนามบิน รถไฟฟ้า หรือห้างสรรพสินค้าช้ันนำแล้วละก็ ราคาก็จะยิ่งพุ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น และสูงกว่าราคาประเมินจากรัฐ มากขึ้นไปหลายเท่าตัวเลยทีเดียว สำหรับบ้านเก่าอายุ 10-20 ปี จะไม่ค่อยนิยมบอกขาย ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการจดจำนอง เสียมากกว่า เพราะบางคนต้องการสภาพคล่อง หรือเงินทุนหมุนเวียน เพื่อจับจ่ายใช้สอย และอาจจะต้องการขยับขยายธุรกิจ เป็นต้น

ปัจจุบันธนาคาร ก็จะเน้นปล่อยสินเชื่อ บ้านมือสอง เนื่องจากว่าอัตราดอกเบี้ย จะได้มากกว่าบ้านใหม่ ถ้าเป็นบ้านใหม่อัตราดอกเบี้ยจะค่อนข้างต่ำ โดยมีธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เป็นแกนนำหลัก ธนาคารพาณิชย์จึงเน้นบ้านมือสอง ดอกเบี้ยอยู่ที่ 9-11% ส่วนดอกเบี้ยบ้านใหม่ 6-7%

จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันนั้น ได้มีคนนิยมเอา บ้านมือสอง มาจดจำนองกับธนาคาร เพิ่มมากขึ้น เพราะต้องการเงินทุนหมุนเวียน ในการทำธุรกิจ ที่อาจจะมีปัญหา หมุนเงินไม่ทัน ค้าขายไม่ค่อยจะดีนัก จึงต้องนำหลักทรัพย์มาจำนองกับธนาคาร เพื่อให้เกิดสภาพคล่องตัวมากยิ่งขึ้น

แถบชานเมือง คนแห่ ขายบ้านมือสอง และที่ดิน เยอะมาก

จากแถบทำเล 3 ทำเลชานเมือง คือ ลำลูกกา บางนา และศรีนครินทร์ ก็จะพบว่าทำเลลำลูกกา ปทุมธานี จะมีการประกาศติดป้าย ขายบ้านมือสอง พร้อมที่ดินมากที่สุด ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจน ที่ติดตามเสาไฟฟ้าเว้นเสาไฟฟ้า กันเลยทีเดียว

เจ้าของ บ้านทาวน์เฮาส์ มือสอง บางคนแถวย่านลำลูกกาได้ให้ข้อมูลว่า ประกาศ ขายทาวน์เฮาส์ มือสอง 20 ตารางวา ขนาดกว้าง 4 เมตร ราคา 1.75 ล้านบาท ได้อยู่อาศัยมา 25 ปี ในหมู่บ้านกลางซอย ลำลูกกาคลอง 3  และถ้าเป็นนายหน้าก็จะบวกราคาเพิ่มอีก 3% เพราะนายหน้า จะมีการคิดค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่ 3% ของราคาขาย และเหตุผลที่ต้องการขาย ก็เพราะว่า ซื้อไว้หลายหลัง และต้องการที่จะได้เงินสดมาไว้ใช้จ่ายหมุนเวียน ในธุรกิจ

ส่วนเจ้าของที่ดินคนหนึ่ง ได้ลงประกาศขายที่ดิน 900 ตารางวา ซึ่งเป็นที่ดินที่ตนได้ซื้อต่อเขามาอีกที เมื่อ 10 ปีที่แล้ว และที่ตัดสินใจขายก็เนื่องจากต้องการที่จะนำเงินสดมาขยายธุรกิจ เพราะที่ดินแปลงนี้ทำเลดี ขายได้แน่นอน และเจ้าของที่ดินยังบอกอีกว่า พ.ร.บ.ภาษีที่ดินฯ ฉบับใหม่ มีผลอย่างมากต่อการตัดสินใจขาย ในครั้งนี้ เพราะตนเองนั้นได้ครอบครองที่ดินเปล่า อยู่หลายแปลงด้วยกัน ไม่อยากมี่จะมานั่งเสียภาษีเยอะ อีกทั้งเศษรฐกิจก็ไม่สู้ดีนัก

ดังนั้น จะเห็นได้ว่าภาวะเศรษฐกิจของเรา จะมีผลกระทบต่อ อสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน คอนโด และที่ดิน รวมทั้งการประกาศ การขึ้นภาษีที่ดิน ต่าง ๆ จากรัฐ อีกด้วย สิ่งเหล่านี้ก็จะส่งผลกระทบ ต่อผู้ที่ครอบครอง และเป็นเจ้าของ อสังหาริมทรัพย์ เป็นจำนวนมาก