ในสถานการณ์ COVID-19 แบบนี้ ที่เศรษฐกิจก็ซบเซาซะเหลือเกิน จนพลอยทำให้การงานการเงินฝืดเคืองไปด้วย หลาย ๆ คนที่ฝันอยากจะมีบ้านเอย คอนโดเอย และต้องการกู้ธนาคาร อาจจะต้องพักไปก่อนเพราะนั่นอาจจะถือว่าเป็นการสร้างหนี้ที่ไม่พร้อม ที่จะมากับสัญญาผูกมัดกับสินเชื่ออสังหาฯที่กินเวลาน๊านนานถึง 10-30 ปี เป็นอย่างต่ำ ฟังดูแล้วอาจจะเป็นตัวเลือกที่ไม่ค่อยเวิร์คสักเท่าไหร่กับสถานการณ์แบบนี้ ใช่ไหมล่ะคะ
วันนี้ Fazwaz จึงอยากมาแนะนำอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ นั่นก็คือการเช่าคอนโด ซึ่งมีข้อผูกมัดน้อยกว่ามาก หลาย ๆ ที่ มีข้อผูกมัดแค่ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 1 ปี เท่านั้นเอง ฟังดูแล้วก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ไม่เลวเลยใช่ไหมล่ะคะ สำหรับสถานการณ์ที่ยากลำบากแบบนี้ มาถึงตอนนี้หลาย ๆ คนคงมีความคิดที่อยากจะเช่าคอนโดกันแล้วละสิ แต่อาจจะมีคำถามผุดขึ้นมาในใจว่า เอ…แล้วอย่างฉันเนี่ย จะต้องเช่าคอนโดกี่บาทดีนะ ถึงจะเหมาะสมกับรายได้ แล้วยังมีเงินออมเก็บไว้ใช้แบบสบาย ๆ วันนี้ทางเราจึงอยากจะมาแชร์ ทริคดี ๆ ในการจัดสรรปันส่วนรายได้ ที่รับรองได้ว่าถ้าเพื่อน ๆ นำทริคเหล่านี้ไปใช้ การเงินจะไม่มีฝืดเคืองอย่างแน่นอน ฟังธง!! ก่อนที่เราจะไปเริ่มวิธีการวางแผนการเงินอย่างหมาะสม เรามาทราบถึงเหตุผลกันดีกว่าค่ะว่า

 เอ..ทำไมต้องเลือกคอนโดกันนะ?
 เอ..ทำไมต้องเลือกคอนโดกันนะ?
เอ..ทำไมต้องเลือกคอนโดกันนะ?

1.ค่าน้ำ-ค่าไฟ เรทบ้าน
สำหรับใครที่เคยอยู่อพาร์ทเม้นท์จะรู้กันดีค่ะว่า ค่าน้ำค่าไฟเรทหอพักและอพาร์ทเม้นท์จะแพงกว่าเรทบ้าน โดยส่วนใหญ่แล้วเนี่ยเจ้าของหอพักหรือ อพาร์ทเม้นท์จะเรียกเก็บ ค่าน้ำค่าไฟในอัตราสูงกว่าที่ทางการเรียกเก็บกว่า 25-40% หรือถ้าคำนวณแล้วก็คือ ค่าไฟเรทบ้านปกติประมาณ 3 บาท ต่อยูนิต อพาร์ทเม้นท์หรือหอพักบางที่ก็เรียกเก็บ 7-9 บาทเลยก็มีค่ะ เมื่อบวกลบคูณหารแล้วการอยู่คอนโด อาจจะถูกกว่าการอยู่หอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ ก็เป็นไปได้ค่ะ

2. Facilities ที่ครบครันช่วยลดค่าใช้จ่าย

Facilities ที่ครบครันช่วยลดค่าใช้จ่าย
Facilities ที่ครบครันช่วยลดค่าใช้จ่าย

3.ทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยมประหยัดค่าเดินทาง
คอนโดมิเนียมแต่ละแห่งนั้นมีจุดขายหลัก อยู่ตรงที่ทำเลที่ตั้งเพื่อดึงดูดความสนใจของคุณลูกค้าหลาย ๆ ประเภท ทั้งทำเลทองใกล้รถไฟฟ้า ใกล้สถานที่ท่องเที่ยว ใกล้สถานที่สำคัญ ๆ ต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าในการพักอาศัยและเดินทางไปไหนมาได้อย่างสะดวกสบาย ต่างกับหอพักหรืออพาร์ทเม้นท์ ที่จะอยู่ในชุมชนที่ห่างออกไปสักหน่อย ทำให้เสียเวลาและเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางพอสมควรเลยล่ะค่ะ

ทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยมประหยัดค่าเดินทาง
ทำเลที่ตั้งที่ดีเยี่ยมประหยัดค่าเดินทาง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ เมื่อเพื่อน ๆ ลองบวกลบหารคูณกันดูแล้ว การเช่าคอนโดที่ดูเหมือนว่าจะแพงกว่าการเช่าหอและอพาร์ทเม้นท์ จริง ๆ แล้วอาจจะมีค่าใช้จ่ายพอ ๆ กันก็ได้ แถมยังเพิ่มเติมเรื่องความสะดวกสบายอีกด้วย มาถึงตอนนี้แล้ว เราจะมาไขข้อสงสัยของเพื่อน ๆ กันค่ะ กับคำถามที่ว่า…

รายได้ฉันเท่านี้ ควรเช่าคอนโดราคาเท่าไหร่ ไม่ให้เกินตัว
โดยทางเราจะเป็น 2 ทริคหลัก ๆ ด้วยกัน นั่นก็คือ 1.การคำนวณค่าเช่า โดยการจัดสรรการใช้เงินเป็นสัดส่วน และ 2.การคำนวณค่าเช่าด้วยหลักการการผ่อนคอนโด พร้อมแล้วหรือยัง? หยิบเครื่องคิดเลขแล้วคำนวณ ไปพร้อม ๆ กับ Fazwaz เลยค่ะ

รายได้ฉันเท่านี้ ควรเช่าคอนโดเท่าไหร่ ไม่ให้เกินตัว
รายได้ฉันเท่านี้ ควรเช่าคอนโดเท่าไหร่ ไม่ให้เกินตัว

1.การคำนวณค่าเช่า โดยการจัดสรรการใช้เงินเป็นสัดส่วน
หลาย ๆ คนที่กำลังออมเงินอยู่ คงคุ้นชินกับอัตราการจัดสรรปันส่วนรายได้ในแต่ละเดือนใช่ไหมล่ะคะ โดยวิธีนี้เนี่ย เราจะต้องแบ่งค่าใช้จ่ายของเราเป็นประเภท ๆ จากนั้นเราจึงมาแบ่งออกเป็นอัตราส่วนตามหมวดหมู่ โดยแต่ละส่วนจะมีอัตราที่มากน้อยไม่เท่ากัน โดยลดหลั่นไปตามความสำคัญ ซึ่งหมวดหมู่ของค่าใช้จ่ายที่ว่ามา แบ่งได้ดังนี้
1.รายจ่ายประจำ คือรายจ่ายที่เราจำเป็นต้องจ่ายในทุก ๆ เดือน เช่น ค่าผ่อนรายเดือนต่าง ๆ ค่าบัตรเครดิต หรือเรียกได้ว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่คงที่ ที่เราสามารถที่จะประเมินได้ โดยค่าเช่าคอนโดก็จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ค่ะ
2. รายจ่ายส่วนตัว จะรวมไปถึง ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าน้ำ-ค่าไฟ ในเพื่อน ๆ บางคนอาจจะรวมไปถึง ค่าเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หรือค่าช้อปปิ้ง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะไม่เท่ากันในแต่ละเดือน แต่เรายังสามารถที่จะควบคุมได้ค่ะ
3.เงินออม ในส่วนนี้เป็นเงินที่เหลือจากค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ถือว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่ไม่ควรละเลยเพราะในบางครั้งเราอาจจะมีสถานการณ์ฉุกเฉินที่เราต้องใช้เงินกะทันหัน การมีเงินส่วนนี้สำรองไว้ก่อน ถือว่าดีไม่น้อยเลยค่ะ
โดยอัตราส่วนที่ของรายจ่ายที่นิยมใช้กันแบ่งออกเป็น 2 แบบใหญ่ ๆ ได้แก่

1. อัตราส่วนของรายจ่าย 50/30/20

2.อัตราส่วนของรายจ่าย 60/35/5
ส่วนใครที่คิดว่าแบบแรกดูจะหนักเกินไป ทาง Fazwaz ขอเสนอ อัตราส่วนแบบที่ 2 ค่ะ โดยเพิ่มในส่วนของ รายจ่ายประจำวัน และ เงินใช้ส่วนตัว เพื่อไม่ให้การใช้เงินดูรัดกุมเกินไป ทำให้เพื่อน ๆ ยังสามารถเอ็นจอยไปกับการท่องเที่ยว การช้อปปิ้ง และยังเหลือเงินอีก 5% ไว้เป็นเงินออม ถึงจะไม่ได้มาก แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเงินเก็บในส่วนนี้เลยค่ะ

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ตอนนี้ก็ได้คำตอบกันไปแล้วสำหรับ คนที่ยังวางแผนในเรื่องของการใช้เงินยังไม่ถูก และไม่รู้ว่ารายได้อย่างฉันควรหมดไปกับค่าเช่าคอนโดเท่าไหร่ดี หากใครยังไม่เห็นภาพ วันนี้ทางเราจะขอยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้นค่ะ
เช่น นางสาว Fazwaz ได้รับเงินเดือน 30,000 บาท หากเราใช้หลัก 50/30/20 นางสาว Fazwaz จะเหลือค่าใช้จ่ายในส่วนของรายจ่ายประจำอยู่ที่ 15,000 บาท แต่บังเอิญมีหนี้บัตรเครดิตอีกเดือนละ 2,000 ดังนั้นนางสาว Fazwaz จะสามารถหาคอนโดเช่า ในราคาที่ไม่ควรจะเกิน 13,000 บาทนั่นเอง

2.การคำนวณค่าเช่าด้วยหลักการการผ่อนคอนโด
เวลาเราจะเลือกกู้ซื้อคอนโดแต่ละครั้งเนี่ย ทางธนาคารจะพิจารณาจากความสามารถในการผ่อนชำระ นั่นก็คือ หลักในการพิจารณาว่าเราจะผ่อนไหวไหม ซึ่งตรงนี้เราสามารถนำมาปรับใช้กับการเช่าคอนโดได้เช่นกัน ซึ่งโดยทั่วไปทางธนาคารจะกำหนดว่าการ ราคาผ่อนจะต้องจะต้องไม่เกิน 40% ของรายได้ ซึ่งเราอาจจะนำหลักการนี้มาใช้ได้ แต่ Fazwaz ขอแนะนำว่าอาจจะลดลงมาหน่อยเหลือซัก 30-35% เพื่อไม่ให้ค่าเช่ามากเกินไปค่ะ

การคำนวณค่าเช่าด้วยหลักการการผ่อนคอนโด
การคำนวณค่าเช่าด้วยหลักการการผ่อนคอนโด

บอกได้เลยค่ะ ว่าการคำนวณราคาเช่าคอนโดในแต่ละเดือน ด้วยสัดส่วนการใช้จ่ายแบบนี้ ทางเรารับรองว่าการเงินของเพื่อน ๆ จะมีแต่ ปังกับปัง ไม่มีพังแน่นอน !! แถมยังมีเงินเก็บไว้สำรองการใช้จ่ายในอนาคตอีกด้วย พอถึงเวลาที่พอเหมาะพอดี ตอนที่กายพร้อม ใจพร้อม การเงินพร้อม!!! เราก็สามารถกู้ซื้อ หรือซื้อ บ้าน หรือคอนโดในฝันของเราได้ไม่ยากเลยค่ะ ทาง Fazwaz ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ !