เกาะสมุย นับว่าเป็นเกาะที่อยู่นอกชายฝั่งตะวันออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นตำบลหนึ่งของจังหวัดสุราษฎร์ธานี และเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองรองลงมาจากภูเก็ต ซึ่งถือว่าเป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามไม่แพ้กับเกาะภูเก็ตเลยทีเดียว ปัจจุบันเศรษฐกิจของเกาะสมุยโดยพื้นฐานแล้ว ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เจริญเติบโต ซึ่งส่งผลให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ประเภทวิลล่าในเกาะสมุยนั้น เป็นที่น่าสนใจกันมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
จากการสำรวจพบว่า ไตรมาสแรกของปี 2557 มีวิลล่าประมาณ 420 ยูนิตในเกาะสมุย ปี 2555 ซัพพลายเกิดใหม่ของวิลล่ามีเพียง 16 ยูนิตเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 2551-2555 ซัพพลายลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากวิกฤติการณ์การเงินในสหรัฐอเมริกา ซัพพลายที่เกิดใหม่ระดับสูงสุดเพิ่มขึ้นในปี 2556 ด้วยจำนวนยูนิตประมาณ 134 ที่เปิดตัวสู่ตลาดซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโอกาสทางเศรษฐกิจของโลกยิ่งสดใสขึ้นทุกวันจนถึงปัจจุบัน
วิลล่าภายใต้แบรนด์ในเกาะสมุยคิดเป็น 11%เท่านั้น ของจำนวนซัพพลายทั้งหมด ในขณะที่วิลล่าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้แบรนด์โรงแรมมีประมาณ 89% และปัจจุบันวิลล่าที่อยู่ภายใต้แบรนด์โรงแรมมี 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ The Estates Samui, The Residences at W Retreat และ Conrad Koh Samui Residences ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะตรงบริเวณที่เรียกว่า “พังกา” ซึ่งบรรยากาศท้ายเกาะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว พร้อมกับมีทัศนียภาพอันสวยงามอีกด้วย ทั้งนี้ วิลล่าดังกล่าวนั้นอาจจะอยู่ไกลไปจากแหล่งอำนวยความสะดวกและความเจริญต่าง ๆ เพียงเล็กน้อย แต่นับว่าเป็นทำเลที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวมากที่สุดเลยก็ว่าได้
โดยส่วนใหญ่แล้ว วิลล่าจะรวมตัวอยู่รอบ ๆ หาดเชิงมน หาดเฉวง และหาดบ่อผุด มีประมาณ 198 ยูนิต ที่ตั้งอยู่บนหาดเชิงมน และ 58 ยูนิต ตั้งอยู่บนหาดเฉวงและบ่อผุด หาดเหล่านี้นับว่า เป็นหาดที่ได้รับความนิยมสำหรับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทวิลล่าโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะสมุย ส่งผลให้บริเวณเหล่านี้ เป็นที่ตั้งของโรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่ง รวมถึงศูนย์การค้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี, แมคโคร และเซ็นทรัลเฟสติวัล เกาะสมุย อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีวิลล่าใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมายรอบ ๆ หาดแม่น้ำและหาดละไม เนื่องจากเป็นทำเลที่เงียบสงบและมีชายหาดที่สวยงาม ตลอดจนมีสิ่งอำนวยความสะดวกและความเจริญต่าง ๆ ที่อยู่ไม่ไกลมากนัก
ไตรมาสแรกของปี 2557 ที่ผ่านมา มีวิลล่าที่ขายประมาณ 213 ยูนิต คิดเป็น 55 % ของซัพพลายทั้งหมด ซึ่งราคาวิลล่าที่ดีมานด์มากที่สุดคือ มีราคาตั้งแต่ 20 ถึง 40 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งยูนิตเหล่านี้มีประมาณ 60.9% ของซัพพลาย โดยวิลล่าในราคานี้โดยทั่วไปแล้ว จะอยู่ในทำเลตามบริเวณไหล่เขา มีวิวทะเลสวยงามแบบพาโนรามาอีกด้วย ซึ่งเปอร์เซ็นต์ของวิลล่าในไตรมาสแรกของปี 2557 นี้ ส่งผลให้ตลาดวิลล่าเป็นที่ยอมรับและขายดีเรื่อย ๆ จนถึงปัจจุบันเลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้น กลุ่มผู้ซื้อวิลล่าในเกาะสมุยส่วนใหญ่ จะเป็นชาวต่างชาติที่เป็นชาวฮ่องกง, อังกฤษ, ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส และรัสเซีย เป็นต้น ซึ่งเหตุผลที่ซื้อวิลล่าในเกาะสมุยนั้น ส่วนใหญ่เพื่อการลงทุนและเป็นบ้านหลังที่สองนั่นเอง กลุ่มที่ซื้อวิลล่าเป็นบ้านหลังที่สอง ส่วนใหญ่นิยมซื้อเพื่อเป็นการพักผ่อนในวันหยุด หรือพักผ่อนในยามเกษียณซึ่งเป็นการซื้อโดยใช้ความรู้สึกเป็นหลักและนิยมเดินทางมาที่โครงการ เพื่อทำความคุ้นเคยกับพื้นที่ก่อนทำการจองซื้อ นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าวแล้ว ผู้สนใจซื้อส่วนใหญ่ให้ความสนใจในตัวสถานที่ ทัศนียภาพและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการพัฒนาด้านอื่น ๆ และความเจริญที่เข้าถึงในพื้นที่เกิดใหม่อีกด้วย
วิลล่าในเกาะสมุย ที่เป็นที่นิยมมีขนาดตั้งแต่ 3-5 ห้องนอนด้วยกัน โดยมีขนาดที่ดินประมาณ 200-400 ตารางวา และพื้นที่ใช้สอยประมาณ 450-650 ตารางเมตร และราคาขายขึ้นอยู่กับระยะทางจากชายหาด ทัศนียภาพของวิลล่า ขนาดยูนิตและขนาดเนื้อที่ เป็นต้น
สิ่งสำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวในเกาะสมุยนั้นคือ เกาะสมุยเองมีจุดเด่นในเรื่องของการพัฒนาศูนย์การค้าที่เปิดใหม่หลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นเซ็นทรัลเฟสติวัล ที่เปิดได้ไม่นานเพียงไม่กี่ปีมานี้ และจำนวนโครงการที่ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 32 ไร่บนหาดเฉวง โดยมีพื้นที่ให้เช่าประมาณ 19,250 ตารางเมตร มีที่จอดรถประมาณ 400 คัน ตลอดจนมีคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดใหญ่บนหาดบ่อผุด บนพื้นที่ 15 ไร่ โดยมีร้านค้าประมาณ 168 แห่งบนพื้นที่ 5,600 ตารางเมตรเลยทีเดียว ปัจจัยต่าง ๆ ดังกล่าวนั้น ส่งผลให้วิลล่าในเกาะสมุย ที่มีราคา 20-40 ล้านบาท เป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวและนักลงทุนมากที่สุดบนเกาะสมุยเลยทีเดียว
