9 สไตล์การออกแบบบ้านแนวญี่ปุ่น แดนอาทิตย์อุทัย
หากใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะออกแบบ ตกแต่งบ้านอย่างไรดี ให้มีความเหมาะสมและลงตัวกับไลฟ์สไตล์ของเราเพราะหากเรามีบ้านเราก็คงอยากที่จะออกแบบบ้านให้สวยงาม มีการตกแต่งทั้งภายในภายนอกที่ดูดีมีสไตล์ และสำหรับวันนี้เวปไซต์ FazWaz ก็มีบ้านแบบญี่ปุ่น มาให้ได้พิจารณากัน ซึ่งเราจะเห็นได้ว่า บ้านแบบญี่ปุ่นนั้นได้รับความนิยมมากในยุคปัจจุบัน เพราะมีการประดับตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น เรียบง่ายแลอบอุ่น จึงทำให้ถูกใจกับทุก ๆ ไลฟ์สไตล์
ที่สำคัญบ้านแบบญี่ปุ่นยังมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร โอกาสดี ๆ แบบนี้เราไปติดตามเกี่ยวกับเคล็ดลับการออกแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่นกันดีกว่าค่ะ เผื่ออาจจะมีบางคนอยากตกแต่งบ้านหรือคอนโดสไตล์เซน แต่ยังไม่รู้ว่าต้องแต่งอย่างไร แต่งแนวไหน มีหลักการอย่างไรบ้างนั้น เราไปติดตามกันเลยค่ะ
1. ให้ความสำคัญกับธรรมชาติ
เพราะคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับความเป็นธรรมชาติมาก จึงมักจะนำไม้เข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบและตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะด้านโครงสร้างที่มักจะใช้ไม้ทำพื้น ผนัง ประตู หน้าต่าง หรือด้านการตกแต่งที่มักจะใช้ไม้ทำฉากกั้น เฟอร์นิเจอร์ และของกระจุกกระจิก โดยไม้ที่นิยมนำมาใช้ในบ้านบ่อย ๆ ได้แก่ ไม้ไผ่ ไม้เมเปิ้ล ไม้ฮิโนกิ ไม้เฮมล็อก และไม้สนแดง
ฉะนั้นถ้าหากใครอยากสร้างบรรยากาศบ้านแบบญี่ปุ่นละก็ ห้ามพลาดงานไม้และงานธรรมชาติอย่างเด็ดขาด รวมถึงอย่าลืมตกแต่งด้วยต้นไม้ญี่ปุ่น เช่น ต้นไผ่หรือต้นบอนไซด้วย ทว่าเอาจริง ๆ จะปลูกต้นอะไรในบ้านก็ช่วยสร้างความเป็นธรรมชาติแบบญี่ปุ่นได้ เพียงแค่ต้องเน้นต้นไม้ที่เรียบง่ายและมีสีเขียวเป็นหลัก นอกจากนี้บ้านญี่ปุ่นยังนิยมเชื่อมต่อพื้นที่ภายในเข้ากับธรรมชาติภายนอกอีกด้วย ดังนั้น ถ้าหากใครมีสวนสดใสรอบบ้าน ก็อย่าลืมทำหน้าต่างขนาดใหญ่ให้มองเห็นได้ชัดๆ ด้วยล่ะ
2. เน้นสีแนวเอิร์ธโทน
หลักสำคัญอีกหนึ่งอย่างของการออกแบบบ้านสไตล์ญี่ปุ่น คือ สีแนวเอิร์ธโทน โดยโทนสียอดนิยมของญี่ปุ่นมีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีน้ำตาลที่มาจากไม้ สีเขียวที่มาจากต้นไม้ และสีเทาที่มาจากกระเบื้องหิน ฉะนั้นถ้าหากใครอยากออกแบบและตกแต่งบ้านให้ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่น พยายามผสมผสานโทนสีเหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน เลือกเฉดสีของเฟอร์นิเจอร์ที่ไม่แตกต่างกันมากเกินไป แล้วค่อยเน้นลูกเล่นพิเศษจากพื้นผิวของวัสดุ เช่น งานไม้หรืองานสาน เพื่อความไม่น่าเบื่อแทน
3. ตกแต่งน้อยชิ้น แต่มากฟังก์ชั่น
บ้านสไตล์ญี่ปุ่นมักจะมีเฟอร์นิเจอร์ไม่ค่อยเยอะ ต่างจากบ้านของคนไทยส่วนใหญ่ที่มักจะมีข้าวของและเฟอร์นิเจอร์เพียบ ดังนั้น ถ้าหากใครจะตกแต่งบ้านสไตล์ญี่ปุ่น ให้คำนึงถึงการใช้งานเป็นหลัก โดยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ดีไซน์เรียบง่าย และใช้วัสดุจากธรรมชาติ ส่วนการจัดวางก็พยายามให้อยู่เป็นกลุ่ม ไม่กระจาย มีที่ว่างสำหรับทางเดิน เช่น จัดเข้ามุมหรือวางชิดผนัง เท่านี้ก็จะช่วยให้บ้านมีความมินิมอลแบบญี่ปุ่นแล้วค่ะ
4. เปิดช่องให้แสงผ่าน
ไม่ว่าจะหลังเล็กหรือหลังใหญ่ การออกแบบภายในบ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความโล่ง โปร่ง และสบายเป็นหลัก ซึ่งปัจจัยสำคัญก็มาจากการเปิดบ้านให้แสงธรรมชาติสาดส่องอย่างทั่วถึง โดยวิธีการง่าย ๆ คือ การใช้หน้าต่างขนาดใหญ่รอบบ้าน การเจาะเพดานเพื่อทำสกายไลท์ และการใช้ม่านแบบเรียบง่ายและโปร่งแสง เอาเป็นว่าถ้าหากใครอยากให้บ้านสว่างและสดใสแบบญี่ปุ่น ก็ลองนำไปปรับใช้กันดูนะคะ
5. เพิ่มสีสันด้วยสติ๊กเกอร์
ถึงแม้บ้านสไตล์ญี่ปุ่นจะเน้นความเรียบง่าย อบอุ่น แต่ถ้าหากโทนสีธรรมชาติไม่ใช่สไตล์ของคุณ ก็สามารถเพิ่มลวดลายและสีสันเข้าไปได้ ด้วยสติ๊กเกอร์ติดผนังแบบญี่ปุ่นหรือ Wall Sticker ที่สำคัญเวลาแกะออกไม่ทิ้งคราบตกค้าง ถ้าหากใครอยากเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นให้มากขึ้นกว่าเดิม อย่าลืมตกแต่งเข้าคู่กับเฟอร์นิเจอร์ทรงเตี้ย ทั้งโต๊ะ ตู้ และเก้าอี้ เพราะจะช่วยให้ห้องกว้างขวางและน่าอยู่แบบชาวเจแปนนิสนั่นเอง
6. จัดเก็บตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
ถ้าหากสังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่า ตู้เสื้อผ้าของญี่ปุ่นไม่เหมือนกับตู้เสื้อผ้าของไทย โดยตู้เสื้อผ้าญี่ปุ่นเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โอชิ-อิเระ (Oshi-ire) มีลักษณะเป็นตู้สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่มาพร้อมกับประตูบานเลื่อน ส่วนภายในแบ่งออกเป็นสองชั้น บนกับล่าง มีไม้พาร์ติชั่นแข็งกั้นตรงกลางตามแนวนอน ความลึกประมาณฟูกพับครึ่ง ซึ่งทุกวันนี้มักจะมีราวแขวนเสื้อติดมาด้วย แต่บางครั้งก็เป็นตู้โล่ง ๆ ไม่มีอะไรภายใน เพราะสามารถเลือกซื้ออุปกรณ์เสริมได้ต่างหากตามต้องการ เนื่องจากคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเน้นพับเสื้อผ้าเก็บใส่กล่อง ตะกร้า ลิ้นชัก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อยและสวยงามสะอาดตา อีกทั้งยังทำให้มองหาและหยิบใช้ได้ง่ายด้วย ถึงขนาดมีวิธีการจัดตู้เสื้อผ้าแบบญี่ปุ่นโดยเฉพาะเลยล่ะ
7. โต๊ะโคทัตสึและเสื่อทาทามิต้องมี
ใครอยากตกแต่งบ้านให้ได้อารมณ์ญี่ปุ่นง่าย ๆ เพียงแค่หาเสื่อทาทามิ (Tatami) มาปู และโต๊ะโคทัตสึ (Kotatsu) มาตั้ง ก็จะทำให้ห้องทั้งห้องมีบรรยากาศเหมือนแดนปลาดิบแบบชิล ๆ แล้ว เพราะไอเทมทั้งสองถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของบ้านสไตล์ญี่ปุ่น โดยโต๊ะโคทัตสึจะมีลักษณะเป็นโต๊ะไม้เตี้ย ๆ สไตล์ญี่ปุ่น ที่ปกคลุมไปด้วยผ้าห่มหนา ๆ รอบด้าน แถมยังมีเครื่องทำความร้อนข้างใต้ ซึ่งคนญี่ปุ่นจะชอบมานั่งคลายหนาวกันที่นี่ ส่วนสำหรับคนไทยที่อยากแต่งบ้านด้วยโต๊ะแบบนี้ คงต้องเอาเครื่องทำความร้อนออกซะก่อน ส่วนผ้าห่มจะเอาออกเพื่อให้เข้ากับสภาพอากาศบ้านเราก็ได้ หรือจะเก็บไว้เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่นก็ดี แถมยังช่วยบรรเทาความหนาวเย็นจากแอร์ได้อีกด้วยนะ
8. ประตูบานเลื่อนคือไอเทมสำคัญ
บ้านสไตล์ญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับประตูบานเลื่อนหรือประตูโชจิ (Shoji) เนื่องจากบ้านญี่ปุ่นมีข้อจำกัดเรื่องเนื้อที่ เลยต้องหันมาใช้ประตูบานเลื่อนเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอย แถมยังช่วยให้ความโปร่ง ไม่บล็อกวิว และไม่บล็อกแสงอีกต่างหาก โดยส่วนใหญ่ประตูโชจิแท้จะทำจากกรอบไม้และกระดาษโปร่งแสง ปัจจุบันมีการประยุกต์ให้เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น จึงนิยมทำจากกรอบไม้และกระจก พร้อมมีช่องไม้เป็นตารางสี่เหลี่ยมภายในแทน รับรองแค่เปลี่ยนมาใช้ประตูบานเลื่อนหรือประตูโชจิ ก็ช่วยเพิ่มความเป็นญี่ปุ่นให้กับบ้านได้ง่าย ๆ แล้ว
9. ทางเข้าบ้านมีห้องเก็บรองเท้า
อีกหนึ่งสิ่งที่บ้านสไตล์ญี่ปุ่นต้องมีก็คือห้องรองเท้าหรือเก็นคัง (Genkan) ซึ่งจะอยู่บริเวณทางเข้าบ้าน เป็นห้องสำหรับเก็บรองเท้าและเปลี่ยนรองเท้าก่อนเข้าบ้าน โดยบรรยากาศส่วนใหญ่จะเป็นห้องไม้ เรียบ ๆ โล่ง ๆ โปร่ง ๆ สว่าง ๆ ที่สำคัญต้องสะอาดและเต็มไปด้วยตู้เก็บรองเท้ามากมาย หรือที่เรียกว่า getabako บอกเลยถ้าหากใครอยากให้บ้านมีกลิ่นอายญี่ปุ่น ห้ามพลาดต่อเติมเก็นคังหน้าบ้านเด็ดขาด
จะเห็นได้ว่าจุดเด่นหลัก ๆ ของบ้านสไตล์ญี่ปุ่นก็คือ ความโล่ง โปร่ง สบาย และเป็นธรรมชาติ ฉะนั้นถ้าหากใครอยากสร้างบรรยากาศให้เหมือนอยู่ในญี่ปุ่นทุกวัน ก็ลองนำไปออกแบบและตกแต่งตามกันดูนะคะ