ประตูบ้านสวย ๆ เลือกยังไงให้เหมาะกับการใช้งาน
เมื่อเรามีบ้านแล้วนั้น มีอยู่สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะเปลี่ยนตามแบบแฟชั่นสวย ๆ นั่นก็คือ ประตูบ้าน เพราะส่วนใหญ่ถ้าเราซื้อบ้านโครงการหรือคอนโดนั้น เป็นไปได้ยากมากที่เราจะได้ออกแบบและตกแต่งบ้านตามสไตล์ของเราเองหรือไม่เราก็ต้องแก้ไขเองเปลี่ยนเอง สำหรับประตูบ้านสวย ๆ มีดีไซน์นั้น ก็จะมีหลายขนาด หลายสไตล์ แต่ละชนิดเป็นแบบไหน เหมาะกับใคร ดีอย่างไร เราจะต้องเช็คข้อมูลดี ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกซื้อนะคะ
ประตูนอกจากจะใช้เป็นทางเข้า-ออก และช่วยเรื่องความเป็นส่วนตัวแล้ว ประตูบ้านยังสามารถเสริมสไตล์การแต่งบ้าน ได้อีกต่างหาก เพราะทุกวันนี้ประตูมีหลากหลายชนิดมาก แถมยังพัฒนาให้สวยงาม ทันสมัย และมีลูกเล่นสอดคล้องตามความต้องการของแต่ละคนเพิ่มขึ้นด้วย ทว่าทุกคนรู้หรือเปล่าคะว่าประตูบ้านมีทั้งหมดกี่แบบ แบบไหนเป็นอย่างไร แบบไหนเหมาะกับใคร และแบบไหนเข้ากับบ้านของเรามากที่สุด คงจะยังไม่รู้กันใช่ไหมล่ะคะ ถ้างั้น วันนี้เวปไซต์ BaanThai ก็จะเป็นผู้รู้อาสาพาทุกคนไปทำความรู้จักกับประตูบ้านในแบบต่าง ๆ รวมทั้งวิธีเลือกประตูบ้านให้เข้ากับ Lifestyle ของแต่ละคนนะคะ
1. ประตูบานสวิง
ประตูบานสวิง ลักษณะคล้ายกับประตูบานเปิด แตกต่างที่ประตูบานสวิงสามารถผลักเข้า-ออกได้ 2 ทาง ซึ่งส่วนใหญ่กรอบของประตูบานสวิงจะนิยมทำจากอะลูมิเนียม ซึ่งบริเวณกรอบทั้งด้านบนและด้านล่างจะมีแกนเดือยยึดติดอยู่กับพื้น วงกบ หรือบานประตูด้วย ส่วนการใช้งานเหมาะกับพื้นที่ที่มีคนเข้า-ออกบ่อย ๆ เช่น ประตูหน้าบ้าน หรือสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ห้างสรรพสินค้าและออฟฟิศ เป็นต้น
2. ประตูบานเปิด
ประตูบานเปิด เป็นประตูที่สามารถเปิดได้แค่เพียงทางเดียว ไม่สามารถผลักออกได้ โดยจะเปิดได้ 90-180 องศา ที่สำคัญคือใช้เนื้อที่บริเวณรอบประตูค่อนข้างเยอะมาก จึงต้องเหลือพื้นที่เว้นว่างไว้สำหรับการเปิด-ปิดพอสมควรด้วย โดยประตูบานเปิดจะมีทั้งแบบบานเดี่ยวและแบบบานคู่ ขึ้นอยู่กับขนาดของพื้นที่ใช้สอย และความกว้างของทางเข้าที่เราต้องการ ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมใช้ภายในบ้านเป็นหลัก เหมาะเป็นทั้งประตูหน้าบ้านหรือประตูห้องต่าง ๆ เช่น ห้องนอนและห้องน้ำ เป็นต้น
3. ประตูบานเลื่อน
ประตูบานเลื่อน เป็นประตูที่ใช้งานด้วยการเลื่อนไปข้าง ๆ โดยจะมีรางติดอยู่ด้านล่าง ด้านบน หรือทั้ง 2 ด้าน เพื่อช่วยให้ประตูเปิด-ปิดได้สะดวกและลื่นไหลได้ดีมากยิ่งขึ้น ซึ่งประตูบานเลื่อนจะมีทั้งแบบบานเดี่ยว บานคู่ และบานสาม มีข้อดี คือ ไม่เกะกะ ไม่ต้องผลักเข้า-ผลักออก ทำให้ประหยัดพื้นที่ จึงเหมาะกับบ้านหรือห้องที่มีขนาดเล็กและต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะ และส่วนใหญ่ประตูชนิดนี้นิยมทำจากกระจก ทำให้สามารถมองเห็นข้างนอก-ข้างในได้อย่างเต็มที่ มีแสงสว่างสาดส่องเข้ามาได้อย่างดี ทำให้บรรยากาศดูโล่ง โปร่ง และทันสมัย
แต่อย่างไรก็ตาม ประตูประเภทนี้ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกันคือ พื้นที่ทางเดินเข้า-ออกจะค่อนข้างแคบ และมักจะมีฝุ่นสะสมในรางเลื่อนต้องหมั่นทำความสะอาดบ่อย ๆ ส่วนการใช้งานจะนิยมทำเป็นประตูทางเข้าหน้าบ้าน หรือประตูกั้นห้องต่าง ๆ
4. ประตูบานเฟี้ยม
ประตูบานเฟี้ยมหรือประตูบานพับ เป็นประตูบานเล็ก ๆ ที่นำมาต่อกันจนเป็นประตูบานใหญ่ เปิด-ปิดโดยการพับซิกแซกสลับกันไป-มา ไปรวมไว้ที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของประตู หรือแยกออกเป็น 2 ฝั่ง โดยที่บริเวณประตูแต่ละบานจะมีเดือยติดอยู่ทั้งด้านบนและด้านล่างเพื่อเชื่อมต่อกัน ทำจากหลากหลายวัสดุขึ้นอยู่กับความชอบ มีทั้งไม้ เหล็ก และกระจก ข้อดีของประตูแบบนี้ก็คือสามารถเปิดได้กว้าง ไม่กินพื้นที่ แถมยังสวยงามและมีสไตล์ จึงได้รับความนิยมในการตกแต่งมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ใช้เป็นประตูหน้าบ้านหรือกั้นห้องก็ได้
5. ประตูบานหมุน
ประตูบานหมุน เป็นประตูที่มีจุดหมุนอยู่ตรงกลางบาน มีทั้งแบบบานเดียวไปจนถึงแบบ 4 บาน มีจุดเด่นก็คือ สามารถตั้งให้หมุนรอบได้ 360 องศา ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ตกแต่งในบ้านขนาดใหญ่ มีพื้นที่เยอะ นอกจากนี้ยังนิยมใช้ตกแต่งในอาคาร ออฟฟิศ โรงพยาบาล หรือสถานที่สาธารณะอื่น ๆ อีกด้วย
6. ประตูม้วนหรือประตูชัตเตอร์
ประตูม้วนหรือประตูชัตเตอร์ เป็นประตูที่ใช้งานด้วยการเลื่อนเปิดขึ้นไปด้านบน ส่วนใหญ่แล้วจะทำจากเหล็กเคลือบกัลวาไนซ์ มีทั้งแบบทึบ แบบโล่ง และแบบทั้งทึบทั้งโล่งในบ้านเดียวกัน โดยส่วนใหญ่จะนิยมใช้เป็นประตูหน้าบ้านตึกแถวหรืออาคารพาณิชย์ต่าง ๆ นั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ เรียกได้ว่าจุใจกันเลยทีเดียว ซึ่งในแต่ละแบบก็มีเอกลักษณ์และจุดเด่นเฉพาะตัวที่แตกต่างกันออกไป แต่ถ้าเรามองรวม ๆ แล้วก็จะมีความสวยงามทั้งนั้น ก็อยู่ที่ว่าใครชอบแบบไหนก็ลองเลือกช้อป เลือกใช้กันได้ตามชอบและความเหมาะกับกำลังทรัพย์ของแต่ละคนกันได้เลย หรือถ้าหากใครพอใจกับประตูบ้านของตัวเองอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีค่ะ จะได้นำงบส่วนนั้นไปใช้จ่ายส่วนอื่น หรือนำไปท่องเที่ยว ตามจังหวัดต่าง ๆ เพื่อผ่อนคลายได้อีกด้วยนะคะ