ในทุก ๆ ปี การออกแบบและการตกแต่งบ้านหรือคอนโด ไม่เคยหยุดนิ่งและมีการอัปเดตเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้เข้ากับทุกยุคทุกสมัย ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าเทรนด์การตกแต่งบ้านหรือคอนโดในแต่ละปีนั้น ย่อมมีความแตกต่างกันออกไป บางครั้งการตกแต่งห้อง ก็ได้นำเทรนด์เก่า ๆ มาใช้อีกครั้งแต่จะมีการเพิ่มลูกเล่นนิดหน่อย เพื่อเป็นการสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ขึ้นมา ทั้งนี้ในปี 2020 ก็ได้นำเทรนด์เก่ามาผสมผสานควบคู่กับเทรนด์ใหม่ขึ้นมา นั่นคือ การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการออกแบบ หรือที่รู้จักกันอย่างคุ้นหูว่า “Eco-Innovation Design” ซึ่งเทรนด์ใหม่นี้ จะเป็นเทรนด์ที่ใส่ใจและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ดังนั้น วันนี้แอดมิน FazWaz ก็เลยจะพาทุกคนไปดูกันค่ะว่ามีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ
1. การตกแต่งสไตล์ Natural Design
ตามที่ได้เกริ่นไปข้างต้นว่า การตกแต่งบ้านหรือคอนโดในปี 2020 จะเกี่ยวข้องกับ Eco Innovation Design แล้ว การตกแต่งตามสไตล์ Natural Design จึงเน้นไปที่การตกแต่งแบบ Tropical แทน โดยเน้นความเป็นธรรมชาติ รวมถึงการเลือกใช้วัสดุต่าง ๆ ก็ย่อมให้เข้ากับบริบทโดยรอบอีกด้วย
การตกแต่งด้วย Natural Design ต้องเลือกวัสดุทดแทนจำพวกไม้ ไม่ว่าจะเป็น ลามิเนต หรือวัสดุปิดผิววีเนียร์ เป็นต้น นอกจากนี้การออกแบบสไตล์ Natural Design ยังต้องเน้นความปลอดโปร่ง โดยการเปิดช่องแสงให้แสงสามารถลอดผ่านหรือระบายได้ อีกทั้ง ยังต้องจัดเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ภายในห้องให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมเช่นกันค่ะ
2. โทนสีอ่อนหรือสีเอิร์ธโทน (Mood and Tone)
โทนสี ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประกอบสำคัญที่จะทำให้การตกแต่งห้องคอนโดนั้นดูดี สวยงามและสบายตามากขึ้นค่ะ ดังนั้นการเลือกโทนสีต่าง ๆ ในการตกแต่ง ถือว่ามีความสำคัญมาก และจะต้องเลือกโทนสีที่ทำให้ห้องดูสว่างและอบอุ่น เช่น สีขาว สีเทา หรือสีเอิร์ธโทน เป็นต้น
ตามที่แอดมินฟาสวาสได้ค้นหาและรวบรวมข้อมูลของโทนสีที่ใช้ในการตกแต่งห้องนั้น พบว่าโทนสีในปี 2020 จะเป็นการใช้สีแบบ 60-30-10 จะเป็นแบบไหนนั้น เราไปดูกันเลยค่ะ
- 60 คือ โทนสีที่มากที่สุดในห้อง โดยจำนวนโทนสี 60 จะคุมโทนหลักของสีทั้งหมดภายในห้อง เพื่อให้ออกมาในทิศทางเดียวกัน
- 30 คือ สีที่ช่วยตัดกับปริมาณของโทนสี 60 เพื่อให้สีตัดทั้งหมดภายในห้องและทำให้กลมกลืนกัน
- 10 คือ จะเป็นโทนสี ที่ช่วยเสริมให้ค่าสี 60 และ 30 มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น ซึ่งค่าสี 10 นี้ อาจจะเป็นค่าสีที่มาจากเฟอร์นิเจอร์ และผ้าม่าน เป็นต้น
3. เลือกวัสดุสังเคราะห์ ที่เน้นลวดลายธรรมชาติ
วัสดุในการตกแต่งห้องนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นวัสดุที่มาจากธรรมชาติเพียงเดียว ซึ่งเราสามารถใช้วัสดุสังเคราะห์แทนกันได้ และเน้นไปที่ลวดลายธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นไม้สังเคราะห์ หินสังเคราะห์ รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่ทำมาจากวัสดุสังเคราะห์ เป็นต้น โดยวัสดุสังเคราะห์ที่เลือกใช้ในการตกแต่งนั้น อาจจะมีความทนทาน และออกแบบเพื่อใช้งานได้อย่างเหมาะสมกว่าวัสดุจากธรรมชาติบางประเภทเลยก็ว่าได้
4. เฟอร์นิเจอร์ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น
การเลือกเฟอร์นิเจอร์ เป็นอีกช่องทางหนึ่งในการตกแต่งห้องให้สวยงามน่าอยู่ได้ โดยวันนี้ทางฟาสวาสจะแนะนำเฟอร์นิเจอร์ 2 ประเภทด้วยกันค่ะ นั่นคือ เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน เนื่องจากเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 ประเภทนี้ จะช่วยให้ห้องคอนโดดูสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม เฟอร์นิเจอร์ลอยตัวและเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความสวยงาม ความทนทาน รวมถึงเรื่องราคาอีกด้วย
ด้วยความทันสมัยของเทคโนโลยีในปัจจุบัน เราสามารถนำเฟอร์นิเจอร์ทั้ง 2 ประเภทมาผสมผสานกันให้อย่างลงตัวกันได้ เรียกได้ว่า เป็นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ในรูปแบบของ Multi-Furniture นั่นเอง
5. เทคโนโลยี Home Automation
ปัจจุบันมีหลายโครงการคอนโดมิเนียม ที่เริ่มนำนวัตกรรม Home Automation มาใช้ภายในโครงการ เพื่อความสะดวกสบายแก่ลูกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นระบบ Key Card Access เข้า-ออกภายในโครงการ ห้องคอนโด ตลอดจนลิฟต์โดยสาร เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมายที่ใช้เข้ามากันมากขึ้น และสามารถควบคุมได้ในระบบสมาร์ทโฟน เช่น ควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ อย่าง ปิด-เปิด ไฟฟ้าภายในห้องตามที่ต้องการได้
6. ประดับห้องด้วยของตกแต่งต่าง ๆ
อีกหนึ่งเทคนิคที่ขาดไปไม่ได้เช่นกัน คือ การประดับห้องด้วยของตกแต่งสวย เพราะเป็นวิธีที่จะช่วยให้ห้องของคุณดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถกำหนดสัดส่วนการใช้งานภายในพื้นที่นั้น ๆ อีกด้วย
เทรนด์การตกแต่งห้องทั้ง 6 เทคนิคข้างต้นนั้น ถือว่าเป็นที่นิยมมาก โดยทางโครงการคอนโดมิเนียมหลายโครงการได้นำเทรนด์การตกแต่งนี้ ไปใช้ในโครงการ เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องดูสวยงามแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อการใช้งานอีกด้วยค่ะ หากใครที่กำลังมองวิธีการตกแต่งห้องอยู่ ก็สามารถนำไปปรับใช้ได้นะคะ
