“แสนสิริ” เปิดรับการใช้จ่ายค่าอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านและคอนโดด้วยสกุลเงินดิจิทัลโดยลูกค้าสามารถใช้เหรียญคริปโตในการซื้อบ้านและคอนโด ตลอดจนการชำระจ่ายค่าส่วนกลางได้ในทุกโครงการภายในเครือแสนสิริ โดยผ่านการจ่ายด้วยสกุลเงินในรูปแบบคริปโต ได้แก่ Bitcoin, ETH, USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza

เศรษฐา ทวีสิน, ประธานผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท แสนสิริ

เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา ประธานผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท แสนสิริ ได้มองเห็นโอกาสจากการเปิดรับการใช้จ่ายผ่านสกุลเงินดิจิทัล โดยการใช้คริปโตเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยของแสนสิริ พร้อมทั้งยังสามารถใช้จ่ายค่าส่วนกลางของโครงการได้อีกด้วย โดยจะส่งผลให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการเติบโตและพัฒนาเพื่อการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี ตลอดจนเพื่อการเปลี่ยนแปลงการบริการทางการเงินดิจิทัล หรือ Digital Financial Service ที่สามารถนำคริปโตเพื่อใช้ชำระหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์ได้จริง โดยเจาะกลุ่มในตลาดเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่ให้ความสนใจในตลาดคริปโตซึ่งเป็นตลาดที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และอีกความน่าสนใจก็คือตลาดคริปโตมีการเจริญเติบโตที่ก้าวกระโดดเป็นอย่างมาก ซึ่งในปัจจุบันมีจำนวนบัญชีล่าสุดของผู้ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในไทย ณ วันที่ 30 ก.ย. 64 เพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.63 ล้านบัญชี

และเมื่อกล่าวถึงจุดแข็งเหนือคู่แข่งของการเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลในการซื้ออสังหาฯ ของแสนสิรินั่นก็ คือ การสามารถชำระจ่ายค่าต่าง ๆ ผ่านคริปโต ทั้งการชำระค่าบ้านหรือคอนโดมิเนียมภายในโครงการแสนสิริได้ อีกทั้งยังสามารถใช้จ่ายค่าส่วนกลางได้ตลอดทั้งปี และสำหรับโครงการที่บริหารโดยพลัส พร็อพเพอร์ตี้ จะเปิดรับในทุก Wallet โดยไม่จำกัด และสามารถคอนเฟิร์มอัตราแลกเปลี่ยนได้ในระยะเวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้น อีกทั้งจะเปิดรับการใช้จ่ายผ่านคริบโตถึง 4 สกุลเงินดิจิทัล ได้แก่ Bitcoin หรือ BTC, Ethereum หรือ ETH, USDC และ USDT ผ่านทาง Bitazza หรือ บิทาซซ่า โบรกเกอร์ ซึ่งเป็นดีลเลอร์ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นเครือข่ายที่มีทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก

รวมถึงในฐานะพาร์ทเนอร์ที่ช่วยเปิด Wallet ที่มีความตั้งใจสนับสนุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน อีกทั้งช่วยให้แสนสิริสามารถรับชำระเป็นคริปโตเคอเรนซี ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงภายในประเทศไทยเท่านั้น ในขณะเดียวกันยังมอบความสะดวกสบายในด้านไลฟ์สไตล์ให้กับผู้ใช้งานแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลของบิทาซซ่าอีกด้วย โครงการนี้จึงเป็นหนึ่งในความตั้งใจที่จะผลักดันให้เทคโนโลยีบล็อกเชนกลายเป็นที่รู้จักและสามารถขยายตลาดเป็นวงกว้างโดยจะเริ่มการใช้งานภายในประเทศไทยซึ่งเป็นที่แรกก่อนที่จะขยับขยายออกสู่ต่างประเทศ

ขณะเดียวกันแสนสิริยังได้รับความร่วมมือจาก Strategic Partner โดยมี XSpring Digital ในฐานะกลุ่มธุรกิจการเงินและหลักทรัพย์ผู้ให้บริการทางการเงินครบวงจรที่เชื่อมโลกการเงินปัจจุบันและโลกบริการทางการเงินดิจิทัลหรือ Digital Financial Service ไว้ด้วยกันรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในด้านการใช้เหรียญคริปโตซื้ออสังหาฯ แก่ลูกค้าอีกด้วย โดนแสนสิริได้เปิดให้บริการซื้อที่อยู่อาศัยในทุกโครงการของแสนสิริผ่านคริปโตเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ประธานผู้อำนวยการใหญ่ของบริษัท แสนสิริยังได้กล่าวอีกว่า ณ ปัจจุบันต่างชาติยังไม่สามารถซื้ออสังหาฯ ไทยผ่านคริปโตได้ เนื่องจากยังไม่มีกฎหมายที่รองรับ แต่หากทางภาครัฐไฟเขียว ทางแสนสิริก็พร้อมจะเปิดรับสกุลเงินดิจิทัลเพื่อใช้ในการชำระค่าที่อยู่อาศัยภายในเครือของแสนสิริในตลาดต่างชาติได้ทันที และเนื่องจากความแข็งแกร่งในตลาดต่างชาติของแสนสิริซึ่งครองยอดขายอันดับหนึ่งในตลาดต่างชาติ ด้วยตัวเลขที่มีมากกว่า 14,000 ล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ทางบริษัทมีฐานลูกค้าต่างชาติที่พร้อมรองรับอยู่ในมือเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว